โทษให้ถูกคน
ฉาวโฉ่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเรื่องเสียหายสำหรับประเทศไทย
ครั้งนี้ประดังเข้ามาติดๆ กัน จนตั้งตัวไม่ติด
หนังสือการ์ตูน “แบ๊ตแมน” ที่เปิดเผยความซ่อนเร้นของกระบวนการโสเภณีเด็ก พร้อมกับตัวเลขจำนวนเด็กและจำนวนเงินสะพัด จนทำให้ขึ้นทำเนียบรายได้หลักของประเทศ
มีการยื่นหนังสือประท้วงไปยังไม่ทันจะถึงตัวผู้เกี่ยวข้อง หนังสือ “คู่มือแหล่งบริการด้านเพศในเมืองไทย” พิมพ์ออกมาขายกันเกร่อทั่วญี่ปุ่น
เดือดร้อนผู้ปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีสตรีออกมาประนามและประท้วงกันจ้าละหวั่น
หนังสือทั้งสอเล่ม ตีพิมพ์กันคนละแห่ง แต่เนื้อหาสาระพูดถึงเรื่องเดียวกัน “โสเภณี”
มันเป็นการสะกิดแผลให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องรู้สึกเจ็บและอับอายขายหน้าไม่น้อย
ทั้งๆ ที่ลึกลงไปในจิตใจ ต่างต้องยอมรับโดยดุษฎีว่ามันเป็นเรื่องจริง
เพราะมันไม่เรื่องอื้อฉาวครั้งแรก แต่ยืดเยื้อกันมาช้านานแล้ว
รัฐบาลทุกชุดที่เข้ามาบริหารประเทศมักจะเลือกเอาเรื่องนี้เป็นจุดขายและนโยบาย แต่ก็เป็นแค่ไฟไหม้ฟางแล้วก็เงียบหายไป ขณะที่ต้องสนใจดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
ปัญหาที่เอามาแต่พูดแต่ถก มักจะเป็นปัญหาเรื้อรังและบานปลายไปเรื่อย
เรื่องราวเสื่อมเสียที่เกิดขึ้นแต่ละอย่างส่งผลกระทบให้คนดีมากกว่าคนที่เป็นตัวปัญหา
คนไทยส่วนใหญ่ต้องขายหน้าเพราะชื่อเสียงของประเทศต้องมัวหมอง แต่คนที่เกี่ยวข้องและร่ำรวยกับธุรกิจประเภทนี้กลับหน้าชื่นตาบาน
คนดีจึงต้องจ่ายแทนคนชั่วแทบในทุกเรื่อง
ผู้หญิงไทยกี่คนที่เดินทางไปต่างประเทศ ต้องถูกสอบถามอย่างหยาบคาย ราวกับว่าหญิงไทยทุกคนไปไหนต้องไปขายตัวที่นั่น
ไม่ต้องพูดถึงสายตาคนต่างชาติที่มองดูด้วยความเย้ยหยัน ดูถูกดูหมิ่น แทะโลม ทันทีที่รู้ว่าเป็นหญิงไทย
จนหลายคนแทบไม่อยากจะบอกใครต่อใครว่ามาจากเมืองไทย
อย่าว่าแต่เดินทางไปต่างประเทศเลย แม้แต่อยู่เมืองไทยเองก็เถอะ นักท่องเที่ยวที่ไม่คิดจะมาเที่ยวอย่างเดียวคิดเหมาเอาเองว่าหญิงไทยนั้นเหมือนกันไปหมด
แถมรัฐบาลยังจะรณรงค์ให้ยิ้มแย้ม มีอัธยาศัยไมตรีกับนักท่องเที่ยว ก็เลยยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปใหญ่
ในเมื่อเกิดความเสื่อมเสียสำหรับประเทศชาติ พลเมืองดีทุกคนถือเป็นหน้าที่จะต้องปกป้อง แก้ต่าง
แต่ก็ดูเหมือนจะพยายามเจาะรูในน้ำ
ในขณะที่ผู้รักศักดิ์ศรีของประเทศออกแรงกู้ชื่อเสียงที่ดีงามคืนมา ผู้รักเงินทองและผล
ประโยชน์กลับไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน พร้อมจะทำลายทุกอย่าง เพียงแค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการเท่านั้น
ผิดกับความพยายามโพทนาแก้ต่างว่าบ้านฉันสะอาดถูกสุขลักษณะ ในขณะที่ขยะมูลฝอยสิ่งปฏิกูลทะลักล้นหน้าต่างออกมาเกือบถึงถนน
พอมีคนพูดถึงความสกปรกในบ้านที ก็ออกมาแก้ต่างพัลวันที
อย่างไรก็อย่างนั้น เกือบทุกปัญหาที่บ้านเมืองเราต้องประสบ
ทุกหน่วยงานออกมาแถลงแก้ต่าง แต่ไม่คิดจะขจัดสิ่งเน่าเสียในสังคมไทย ที่เป็นตัวบ่อนทำลายศักดิ์ศรีของประเทศชาติ
เที่ยวไปว่าชาติโน้นชาตินี้ว่าคอยจ้องทำลายชื่อเสียง แต่จริงๆ แล้วก็เป็นคนไทยกันเองนั่นแหละที่เป็นตัวการ
ตัวเหม็นไม่อาบน้ำอาบท่า แล้วเที่ยวไปโทษคนอื่นว่าทำให้บรรยากาศรอบตัวไม่ชวนภิรมณ์
เป็นอย่างนี้แทบทุกเรื่อง
ชีวิตแต่งงานต้องมีปัญหาเพราะคนที่สามที่สี่ แต่จริงๆ แล้วเพราะเจ้าตัวผัวเมียมากกว่า
ชีวิตต้องเลวร้ายเพราะอบายมุขสื่อชั่วรอบข้าง แต่จริงๆ แล้วเพราะตัวเองนั่นแหละไม่รู้จักควบคุมตน
ไม่อยากไปวัดไปวาเพราะพ่อเจ้าวัดไม่ดี แต่จริงๆ แล้วตัวเองนั่นแหละที่เสื่อมศรัทธา
เที่ยวโทษว่าคนโน้นคนนี้ แต่ไม่เคยคิดจะโทษตนเองบ้างเลย
ลงเอยก็ไม่ผิดกับการพยายามเอาใบบัวปิดช้างตายทั้งตัวนั่นแหละ.