Stimulating Thoughts|47

สิ่งน่ากลัว


อาสัญกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยิตซ์ฮักราบิน สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก

มันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่รักสันติภาพ และอยากจะเห็นโลกใบนี้ไร้ซึ่งความเกลียดชัง การทะเลาะวิวาท สงคราม การหักล้างทำลาย

ในส่วนลึกของจิตใจของมนุษย์ทุกคนมีความต้องการสันติ ความกลมกลืน ความเป็นพี่ เป็นน้อง ความสงบสุข

สงครามแต่ละครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจของผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทำร้ายจิตใจของมนุษย์ทุกคนด้วย

เพียงแค่คิดถึงจิตใจของเด็กๆ ที่ต้องรับรู้ถึงความโหดร้าย ทารุณ การเข่นฆ่าทำลาย จะใกล้หรือไกลตัว พลอยต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้เข้าไปวันแล้ววันเล่าจนทำให้เกิดความคิดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปกติของวิสัยมนุษย์แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำกันได้ ไม่แปลกหรือไม่ผิดอะไร หรือแย่ไปกว่านั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำ

ปืนและอาวุธจึงเป็นของเล่นอย่างหนึ่ง ไม่ต่างไปจากตุ๊กตาหรือหม้อข้าวหม้อแกงไม่ต้องมองไปให้ไกลตัว เพียงแค่ข่าวคราวที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์หรือที่จอโทรทัศน์ ที่เน้นเสนอข่าวร้ายต่างๆ ในรายละเอียดถี่ยิบให้เห็นทุกวันในบ้านเมืองเรา

ก็น่าวิตกกว่าสิ่งเหล่านี้ที่ซึมซับเข้าไปวันแล้ววันเล่า จากที่เคยเป็นความผิดความชั่วจะกลายเป็นสิ่งธรรมดาไปและนี่คือสิ่งที่น่ากลัว การมองความชั่วเป็นเรื่องธรรมดามือปืนสังหารยิตซ์ฮัก ราบิน ประกาศก้องว่า เขาทำไปตามพระบัญชาพระเจ้า

มันเป็นคำยืนยันที่ขัดกับการกระทำอย่างน่าเกลียดไม่ผิดกับการจะพูดว่า ทำชั่วเพื่อความดีมันง่ายที่ดึงพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวกับการกระทำ อ้างถึงพระองค์ได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัว เพราะพระเจ้าท่านไม่เคยโต้แย้งแต่การกระทำนั้นๆ มันฟ้องตัวมันเอง โดยพระเจ้าไม่ทรงต้องแถลงชี้แจงพระเจ้าผู้ทรงความดีบริสุทธิ์ จะทรงสั่งให้คนทำความชั่วอย่างนั้นได้อย่างไร?

แต่นั่นแหละ มีการอ้างเช่นนี้กันมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน ในรูปแบบต่างกันไป

ฉันทำเพื่อพระ...

แล้วก็ทำสิ่งที่ฉันต้องการ ไม่คำนึงว่าจะผิดต่อความรักเพื่อนพี่น้องหรือไม่นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า... แล้วก็บังคับให้ทุกคนทำตามความต้องการของตนเอง ไม่สนใจว่าจะกระทบใครบ้าง

ฉันทำเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้า...แล้วก็มานั่งภาคภูมิใจ โอ้อวดคุยโวผลงานที่ทำอย่างไม่รู้จบฉันทำเพื่อช่วยพระศาสนจักร...

แล้วก็กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเอง ร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำประเภทหากินกับวัดถ้ากล้าอ้างถึงพระเจ้าเพื่อประโยชน์ที่แอบแฝงแล้ว การจะอ้างความดีอย่างอื่นก็ไม่แปลก

ฉันต้องทำเพราะรักนะ...

แล้วผลการกระทำที่ออกมาแต่ละอย่าง ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า รักฉัน หรือรักเธอ ฉันต้องทำโทษเพื่อความดีของเธอนะ...

ทำแล้วฉันสบายใจ เพราะได้ระบายอารมณ์ออกมาฉันจำต้องปฏิเสธเพื่อความดีของเธอ...

ทำแล้วรู้สึกสะใจลึกๆ ที่มีโอกาสได้แก้แค้นสำหรับความเจ็บใจที่คาค้างอยู่ฉันจำเป็นต้องทำเพราะหวังดีนะ...

แล้วปลายทางของการกระทำก็คือ ความหวังดีต่อตัวฉันเอง ฯลฯ


แม้จะอมพระพูด หากพูดอย่างหมายถึงอีกอย่าง ไม่เร็วก็ช้าการกระทำนั้นๆ ก็จะฟ้องตัวมันเองออกมาอย่างช่วยไม่ได้และนั่นคือการดึงของสูงให้ลงมาต่ำไม่ผิดกับการไหว้พระขอพรท่านก่อนทำชั่ว.