นักฝัน
ผมติดตามพิธีฝังศพของอดีตนายรัฐมนตรีอิสราเอล ยีตซ์ฮัก ราบิน ทางโทรทัศน์วันนั้นด้วยหัวใจหดหู่
ผู้นำประเทศที่ได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวคำไว้อาลัย ต่างยกย่อง “บุรุษแห่งสันติภาพ” ด้วยเสียงสั่นเครือ
ภาพโทรทัศน์ซึ่งจับยู่ที่สีหน้าคนร่วมพิธีทำให้เห็นบรรยากาศของขณะนั้นได้อย่างชัดเจน
มันเป็นความปวดร้าว ความสูญเสีย ความอาลัยอาวรณ์ ความโศกเศร้า...ต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของบุคคลผู้หนึ่งที่เป็นนักฝันยิ่งใหญ่
ตลอดชีวิต เขาทำทุกอย่างเพื่อจะได้มาซึ่งสันติภาพและความผาสุกของชนชาติที่เขารักและหวงแหน
เขาทุ่มเทชีวิตเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติจากการรุกราน
แล้วก็หันมาเป็นนักการเมือง ร่วมอุดมการณ์ในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศระดับนำของโลก
เมื่อได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี เขาก็เริ่มฝันอยากให้ดินแดนที่ชนชาติของเขาตั้งรกรากอยู่ได้มีสันติภาพถาวร
มันเป็นความฝันยิ่งใหญ่ ใหญ่เกินกว่าจะเป็นจริง เมื่อมองย้อนหลังไปเกือบห้าสิบปีที่ผ่านมาที่ประเทศของเขาต้องทำสงครามเพื่อความอยู่รอดและอิสรภาพมาอย่างต่อเนื่อง
ความฝันนั้นที่เขาเองเคยพูดออกมา “อยากจะให้ลูกหลานของเรามีชีวิตอยู่อย่างผาสุกโดยไม่ต้องทำสงครามอีกต่อไป”
เฉพาะความฝันที่เลยตนเองไปเท่านั้น ที่เป็นความฝันแท้จริง ยิ่งใหญ่ และคู่ควรกับศักดิ์ศรีของความเป็นคน
เพราะความฝันแบบนี้ไม่จบสิ้นลงพร้อมกับความตายของคนฝัน แต่มีการสานต่อกันไปจากชนรุ่นหนึ่งไปยังชนอีกรุ่นหนึ่ง
กระสุนปืนคร่าได้แค่ชีวิต แต่หยุดยั้งความฝันไม่ได้
และในวันที่ร่างของเขาถูกฝัง ทุกคนที่อยู่ที่นั่นและที่อื่นๆ คงได้ยืนยันว่าจะสานต่อความฝันของเขาให้เป็นความจริงให้ได้
มีคนพูดไว้อย่างคมคายว่า “ถ้าอยากให้ฝันเป็นจริง จงตื่นขึ้นมาสิ”
ราบินไม่ได้เอาแต่ฝัน เขาลงมือ เขาทุ่มเท เขาเจรจา เขาเดินทาง...เขาตื่นขึ้นรับการท้าทายทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ฝัของเขาเป็นความจริงขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย
หลายคนเช่นเขา มีความฝันอันสูงส่ง แต่ไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพื่อให้ฝันเป็นจริง
เพราะนั่นหมายถึงการออกแรง การพยายาม การเสียสละ การควักเนื้อ
ความฝันก็เลยเป็นแค่ความฝันจริงๆ ด้วย เผลอๆ ตื่นขึ้นมาแล้วยังจำไม่ได้ว่าฝันอะไรไว้ เพราะฝันเฟื่องไว้หลายเรื่อง
ทุกคนเป็นนักฝัน แต่มีน้อยคนที่ตื่นขึ้นมาให้ฝันเป็นจริง
ความฝันหากหยุดอยู่แค่ตัวคนฝัน มันก็ตายพร้อมกับคนฝัน
แต่หากความฝันเลยตัวคนฝันไป มันจะต่อเนื่องไปสู่ความเป็นจริง หากคนฝันพร้อมจะตายเพื่อความฝันนั้น
ราบินฝันถึงสันติภาพสำหรับลูกหลานเหลน แต่พอความฝันเริ่มจะเป็นจริง เขาก็ต้องจ่ายด้วยชีวิตเขาเอง
คืนนั้นเขายืนร้องเพลงสันติภาพพร้อมกับคนนับแสน พอร้องเพลงสันติภาพด้วยเสียงเสร็จ เขาก็ต้องร้องมันต่อไปด้วยเลือดและความตาย
ความฝันบางอย่างราคาแพงเกินกว่าที่จะจ่ายด้วยเงินทอง หากแต่ต้องจ่ายด้วยชีวิต
ทุกคนที่ฝันสำหรับผู้อื่น มักจะต้องจ่ายมันด้วยชีวิตเสมอ
ประวัติศาสตร์โลกที่ผ่านมายืนยันความจริงนี้อย่างเด่นชัด
น่าเสียดายที่หลายคนโดยตำแหน่งบทบาทหน้าที่น่าจะเป็นนักฝันสำหรับผู้อื่น แต่กลับคิดจะฝันสำหรับตนเองฝ่ายเดียว
นักการเมือง พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ นักบวช ข้าราชการ ฯลฯ
ความฝันจึงต้องตายไป ในขณะที่คนฝันอยู่ดีมีสุข เฉพาะตัว.