Stimulating Thoughts|54

มลพิษฝ่ายจิต


To err is human, to forgive is God

ผมเคยอ่านจากหนังสือเล่นหนึ่งนานมาแล้ว แต่ยังจำได้แม่นยำ

พอจะแปลความเป็นภาษาไทยว่า “ความผิดพลาดคือวิสัยมนุษย์ การให้อภัยคือวิสัยพระเจ้า”

คนสมัยก่อนพูดกันติดปากว่า “สิบมือยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง”

ซึ่งเป็นการตอกย้ำความจริงที่ว่า มนุษย์ย่อมผิดพลาดได้เสมอ แม้จะเชี่ยวชาญและเก่งกาจไหน ก็เถอะ

เพราะนั่นคือวิถีมนุษย์ปุถุชนไม่เว้นใคร

ในเมื่อความผิดพลาดเป็นวิสัยมนุษย์ การอภัยก็น่าจะเป็นวิสัยของมนุษย์ด้วย

ฉันอาจจะผิดพลาดขณะที่คุณถูกในเรื่องนี้ แต่คุณก็อาจจะผิดขณะที่ฉันถูกในเรื่องนั้นได้เหมือนกัน

คำ “ขอโทษ” กับคำ “ยกโทษให้” หรือ “ไม่เป็นไร” ก็น่าจะเป็นคำที่พูดออกมาง่ายๆ

เพราะในความเป็นจริงแล้ว วันหนึ่งๆ เดี๋ยวฉันต้องพูด “ขอโทษ” เดี๋ยวฉันก็ต้องพูด “ไม่เป็นไร” สลับกันไปหลายครั้งหลายหน

แต่คนกลับไม่ค่อยชอบพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” หนักเข้าก็ไม่ยอมพูดแม้กระทั่งคำว่า “ขอโทษ” กันอีกแล้ว เพราะถือว่าคนเรามันผิดพลาดกันได้ทุกคนนั่นแหละ จะเอาอะไรกันนักกันหนา

และเมื่อคิดว่าไม่ต้อง “ขอโทษ” ก็เลยไม่นึกจะ “ยกโทษ”

พอคนอื่นมา “ขอโทษ” จึงไม่พร้อมจะ “ยกโทษ” ให้

คนเราพร้อมจะยกโทษให้ หากรู้ตัวว่าตนเองก็ต้องการให้คนอื่นยกโทษให้ตด้วยเหมือนกัน

มากกว่านั้น ยังต้องการให้พระเจ้าทรงยกโทษความผิดและบาป ที่กระทำแทบไม่ว่างเว้น

พระเยซูเจ้าจึงทรงสอนให้สวดขอการอภัยจากพระเจ้า ด้วยจิตใจที่พร้อมจะให้อภัยแก่คนอื่น

โปรดยกโทษผิดให้ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น”

โดยนัยแล้ว พระองค์ทรงต้องการจะบอกว่า หากต้องการให้พระเจ้าอภัยความผิดให้ ก็ต้องพร้อมจะให้อภัยความผิดที่คนอื่นทำเช่นกัน

ไม่มีความผิดใดที่เกิดขึ้นตามลำพัง หากแต่ต้องมีคนอื่นร่วมส่วนด้วยเสมอ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

ความผิดที่เกิดขึ้นในสังคมใดสังคมหนึ่ง ทุกคนอยู่ในสังคมมีส่วนร่วมด้วยเสมอ

อย่างน้อยที่สุด ทุกคนมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่มากก็น้อย


วัยรุ่นใจแตก ไม่ใช่เพราะตัววัยรุ่นไม่รักดี แต่สภาพแวดล้อมที่เสื่อมด้วยสิ่งที่สื่อมวลชนป้อนให้ สถานเริงรมณ์ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และกำหมายที่เต็มด้วยช่องโหว่ให้หลบให้หลีกได้ตลอดเวลา

ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นผลพวงมาจากความเกลียดชัง ความเห็นแก่ตัว ความเอาแต่ได้ โดยไม่คิดถึงความถูกต้อง ที่ช่วยกันหว่านไว้เต็มบรรยากาศ

ความชั่วร้อยพันรูปแบบที่มีให้พบเห็นทุกวัน มาจากความเสื่อมด้านศีลธรรมคนในสังคมที่เน้นแค่วัตถุและบริโภคนิยม จนมองไม่เห็นคุณค่าอื่นที่น่าจะช่วยกันธำรงค์ส่งเสริม

และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งชี้บอกและตอกย้ำความจริงที่ว่า ไม่มีใครทำผิดลำพังตัวคนเดียว

ข่าวที่คนไทยไปเที่ยวที่ประเทศซาอุดิอาราบีย ขับรถไปติดไฟแดงและถูกรถคันหลังชนท้าย ศาลตัดสินให้คนไทยผิด โดยให้เหตุผลว่าถ้าคนไทยอยู่ที่เมืองไทยและไม่มาที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย รถคันหลังก็คงจะไม่ชน

มันเป็นเหตุผลที่ดูน่าขำ แต่ก็บอกสัจธรรมที่ว่า ไม่มีใครทำผิดลำพังคนเดียว

หากคนเราจะนึกถึงสัจธรรมนี้บ้าง การให้อภัยความผิดที่เกิดขึ้นย่อมทำได้ง่าย

แต่หากยืนกรานว่า ฉันเป็นเหยื่อผู้ไร้มลทินของความผิดและความชั่วที่เกิดขึ้น เพราะฉันไม่เกี่ยวข้องกับความผิดความชั่วแม้แต่น้อนิด การให้อภัยย่อมทำได้ยากหรือทำไม่ได้เลย


ทุกความผิดที่เกิดขึ้น หากมีการให้อภัย ความผิดนั้นๆ ก็ถูกลบล้างไป

แต่หากไม่ได้รับการอภัย ความผิดนั้นก็ยังคงอยู่ และไปสั่งสมกับความผิดอื่นๆ ในสังคม จนกลายเป็นมลพิษฝ่ายจิตใจที่คอยบ่อนทำลายคนในสังคมนั้นๆ อย่างน่ากลัว

ทุกวันนี้มีการรณรงค์ให้ช่วยกันขจัดมลพิษในสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็มีการร่วมมือกันจริงจังในทุกฝ่าย เพื่อสุขภาพและความอยู่ดีมีสุขของคนในสังคม

น่าจะมีการรณรงค์ให้ช่วยกันขจัดมลพิษฝ่ายจิตใจ เพื่อสุขภาพจิตของคนด้วย

นอกจากจะช่วยกันทำความดีแล้ว การให้อภัยคือการขจัดขยะฝ่ายจิตที่แท้จริง

และนี่คือจุดหมายอีกอย่างหนึ่งของมหาพรต.