Stimulating Thoughts|12

สังคมน้ำเน่า


อ่านข่าวนี้แล้ว ผมต้องปลงหลายครั้งหลายครา

จนแล้วจนรอด ผมต้องนั่งถามตัวเองว่า นี่มันอะไรกัน

ที่ประเทศฝรั่งเศส ในเมืองเล็กๆ โรงเรียนอนุบาลและซ่องโสเภณี ตั้งอยู่ติดกัน

แต่ละวัน เด็กนักเรียนตัวน้อยๆ เดินเข้าออกประตูโรงเรียนอนุบาล ขณะที่หนุ่มจ้าวสำราญเดินเข้าออกสถานบริการ

มันดูขัดกันอย่างน่าเกลียด แต่ธุรกิจของทั้งสองสถานดำเนินเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาดีพอควร

จะว่าผลกระทบที่อาจจะมีต่อจิตใจเด็กตัวน้อยๆ ในสภาพเช่นนี้ ก็คงยังไม่มี เพราะเด็กยังไร้เดียงสาเกินไปจะรู้อะไรเป็นอะไร

จนกระทั่งเกิดการฟ้องร้องขึ้น

ไม่ใช่จากโรงเรียนอนุบาล แต่จากสถานบริการที่อยู่ถัดไป

ฟ้องว่า กิจการของสถานที่บริการต้องซบเซา เพราะลูกค้าเห็นเด็กตัวน้อยๆ เดินเข้าออกประตูถัดไปแล้วเกิดความกระดาก

พร้อมกับการฟ้องร้อง ทางสถานที่บริการเรียกร้องให้ย้ายโรงเรียนอนุบาล ก่อนที่กิจการจะซบเซาไปมากกว่านี้

ความไปถึงศาล และมีการตัดสิน

ให้มีการย้ายโรงเรียนอนุบาลออกจากที่นั่น!

อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยาย ที่คนเขียนตั้งใจหักมุมให้คนอ่านแปลกใจเล่น

ใครอานเรื่องนี้แล้ว ก็คงคิดเหมือนกัน

ซ่องโสเภณีน่าจะถูกสั่งให้ย้าย เพื่อจริยธรรมและความดีของเด็กตัวน้อยๆ

ก็เป็นแค่นิยาย ก็ยังพอทำเนา อ่านแล้วก็อ่านเลย

ถ้าไม่ถูกใจ ก็ยกเข้าประเภทนิยายน้ำเน่าไป

แต่นี่มันเป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยนี้

สังคมที่เน้นธุรกิจ มากกว่าความถูกต้องและคุณธรรม

ผลประโยชน์ มากกว่าอุดมการณ์

ความถูกใจ มากกว่าความถูกต้อง

ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

ลองสังคมตั้งจุดยืนไว้กันเช่นนี้ ความดีก็คงต้องถอยไปเรื่อยๆ


ใครมีอำนาจต่อรองมากกว่า แม้จะผิดก็มีสิทธิ์ชนะได้เหมือนกัน

ใครมีเงินมากกว่า แม้จะทำผิดก็สามารถพลิกคดีให้เป็นถูกได้เหมือนกัน

ใครมีบารมีมากกว่า แม้ชีวิตจะเลวก็ยังมีศักดิ์ศรีเชิดหน้าชูตาได้เหมือนกัน

ใครมือยาวกว่า แม้ไร้วิชาไร้ความรู้ก็ยังได้เปรียบคนอื่นได้เหมือนกัน

ใครเส้นสายดีกว่า แม้จะผิดกฎหมายบ้านเมืองก็มีทางหลีกเลี่ยงได้เหมือนกัน

ใครหน้าด้านมากกว่า แม้เป็นเรื่องอับอายก็ทำได้โดยไม่แคร์ใครได้เหมือนกัน

ใครเลวมากกว่า แม้จะไม่ถูกต้องก็กล้าทำโดยไม่ต้องคำนึงหน้าอินทร์หน้าพรหมได้เหมือน

กัน

ใครมีตำแหน่งมากกว่า แม้ชั่วก็ยังสามารถใช้คำ “ผู้ทรงเกียรติ” ตามหลังชื่อได้เหมือนกัน

จากนิยายน้ำเน่า มันกลายเป็นสังคมน้ำเน่า

ใครเป็นต้นเหตุ?

ผม คุณ คุณ คุณ คุณ พวกเรา พวกคุณ นี่แหละ

ที่มีส่วนทำให้เกิดน้ำเน่าในสังคมที่เราอยู่

ไม่ใช่คนอื่น ไม่ใช่คนชั่วคนเลว อย่างเดียว

เพราะถ้าคนดีไม่ยอมปล่อยเลยตามเลยให้คนเลวได้ใจ ความชั่วก็คงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ

ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองถือความสุจริตเป็นที่ตั้งกันทุกคน การคดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวงก็คงไม่มีให้เห็น

ถ้าเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย ไม่ทำผิกกฎหมายเสียเอง ก็คงมีคนฝ่าฝืนกฎหมายกันน้อย

ถ้า “ผู้ทรงเกียรติ” ในบ้านเมืองทำตัวให้สมเกียรติ ก็คงจะไม่มีตัวอย่างเลวให้เห็นตำตา

ถ้าพ่อแม่ไม่เลี้ยงดูลูกแต่กาย พลเมืองของชาติก็คงจะมีคุณธรรมมากกว่านี้

ถ้าลองเที่ยวโยนความรับผิดชอบไปให้ทุกคน ยกเว้นคุณเอง

สักวันคุณคงต้องย้ายตัวเอง เพื่อให้ที่และผลประโยชน์แก่คนชั่วคนเลว

เหมือนข่าวที่กล่าวข้างต้น เป็นแน่.