Way of Spirit|2 page 6

บทสรุป



พระเยซูเจ้าทรงจบอุปมาเรื่องนี้อย่างห้วนๆ ไม่ได้เล่าต่อว่า ท่าทีของบุตรชายคนโตเป็นอย่างไร แต่ทิ้งให้เราคิดต่อกันเอาเอง


อาจจะเป็นได้ที่คำพูดและท่าทีของบิดาช่วยเปิดตาให้บุตรคนโตเห็นความจริงอันยิ่งใหญ่ที่เขาไม่เคยมองหรือมองข้ามไป กล่าวคือ ความรักที่บิดามีต่อเขา ทำให้เขาเข้าใจว่าทุกท่าทีและการกระทำของบิดาล้วนเป็นการบอกรักที่บิดามีต่อเขา และเชื้อเชิญเขาให้เปิดใจรับความรักและดำรงอยู่ในความรักนั้น เพื่อจะได้เป็นพ่อ-ลูกกันมากกว่าจะเป็นแค่ผู้รับใช้


อาจจะเป็นได้อีกเหมือนกันว่า ท่าทีและคำพูดของบิดาไม่สามารถเปลี่ยนใจของบุตรคนโตได้ เขาเลือกที่จะอยู่แบบนี้และพอใจที่จะอยู่ต่อไปแบบนี้ อยู่ในบ้านเหมือนเป็นผู้รับใช้ ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้พ่อได้รับรู้และตอบแทนให้เขาตามความยุติธรรม การกลับมาของน้องชายคงจะทำให้เขาต้องอึดอัดมากขึ้น เพราะเกิดการเปรียบเทียบในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบิดา และระหว่างน้องชายกับบิดา ที่แน่ๆ คือเขาคงต้องคอยรักษาผลประโยชน์ของเขาไว้อย่างเหนียวแน่นและในทุกอย่าง เพราะน้องชายได้ผลาญส่วนที่เป็นสิทธิของเขาหมดไปแล้ว ชีวิตที่เคยสงบก็ต้องร้อนรุ่ม


น่าสังเกตว่า พระเยซูเจ้าทรงเน้นบทบาทของบิดา โดยไม่ได้กล่าวถึงมารดาของลูกสองคนแต่อย่างใด กระนั้นก็ดีท่าทีและคำพูดคำจาของบิดาแฝงไว้ซึ่งบทบาทของพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน และบิดาได้ทำบทบาททั้งสองได้อย่างกลมกลืนและลงตัว หรือว่าพระเยซูเจ้าทรงต้องการจะบอกเราว่า พระเจ้าทรงเป็นทั้งพ่อและแม่ที่รัก เอาใจใส่และทุ่มเทเพื่อลูกๆ เหมือนกับที่ศิลปิน Rembrandt ได้วาดรูปบิดาที่สวมกอดบุตรคนเล็กที่ซมซานกลับมา โดยเน้นรูปร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นบิดาอย่างเด่นชัด และเน้นมือสองข้างของบิดาที่โอบไหล่บุตรคนเล็กอยู่ โดยที่มือข้างขวาใหญ่แบบผู้ชายที่สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่นและเข็มแข็งเยี่ยงพ่อ ในขณะที่มือข้างซ้ายเรียวเล็กแบบผู้หญิงที่สะท้อนความรัก ความอ่อนโยน และความทะนุถนอมเยี่ยงแม่


พระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องอุปมานี้โดยเน้นบทบาท ท่าที และความรักของบิดา พระองค์ทรงต้องการให้มนุษย์ได้เห็นในความเป็นจริงแห่งความรักของพระบิดาที่มีต่อลูกที่หลงผิดไป ซึ่งเป็นท่าทีเดียวกันที่พระองค์เองทรงมีต่อคนบาปและทรงทำให้เห็นเป็นประจักษ์ในขณะที่ทรงเทศน์สอนและอยู่กับประชาชน เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า พระองค์กับพระบิดาทรงเป็นหนึ่งเดียวกัน พระองค์ทรงกระทำและทรงคิดเหมือนอย่างที่พระบิดาทรงคิด และทรงทำชีวิตและการกระทำของพระองค์จึงเป็นการสะท้อนชีวิตและการกระทำของพระบิดาอยู่ตลอดเวลานั่นเอง .