Deep Thoughts|49

ฆ่าพระเจ้า?


ทุกวันนี้ แม้มนุษย์จะพัฒนาตนเองจนเลิศในทุกด้าน แต่ก็ดูจะมีความหวาดกลัวอยู่ลึก ๆ กลัวจะมีคู่แข่ง ซึ่งจะมาทำให้มนุษย์ต้องด้อยไป... ด้อยกว่าที่คาดคิดไว้

ทุกอย่างที่ดูเหมือนจะข่มขู่คุกคามความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ เขาจะถือว่าเป็นศัตรูร้ายที่ต้องขจัดให้สิ้นซาก เพื่อคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ต่อไปอย่างมั่นใจ

และหากทำลายให้สูญสิ้นไปไม่ได้ มนุษย์ก็ทำเหมือนกับสิ่งนั้นไม่มีตัวตนอยู่

ปฏิเสธไม่ได้ ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจ... คนขี้เหร่ ก็ทำเหมือนกับคนสวนคนหล่อไม่มีในสังคม

คนโง่ ก็ทำเหมือนกับว่าในโลกนี้ไม่มีคนฉลาด คนอ่อนแอ ก็ทำเป็นไม่สนใจว่ามีคนแข็งแรงกว่าอยู่รอบข้างคนจน ก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีใครรวยกว่าใคร

ทำกับคนด้วยกันยังไม่พอ ทำแม้กระทั่งกับพระเจ้าด้วยถึงขนาดออกมาประกาศกันเป็นเรื่องเป็นราวว่าพระเจ้าตายไปแล้ว

ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า พระเจ้าทรงตายไม่ได้ แต่ก็ประกาศให้ตัวเองรับรู้ว่าพระเจ้าทรงตายไปแล้วสำหรับตนเอง

เพื่อจะทรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของตน และทำอะไรตามใจชอบโดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

สำหรับหลายคน การยอมรับว่ามีพระเจ้าจึงเป็นความอึดอัด เหมือนคนชั่วหากยอมรับในความดี ก็ต้องรู้สึกถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจ.. ระหว่างความดีและความชั่ว ความถูกต้องและความผิดเพราะเหตุนี้เอง หลายคนจึงไม่สนใจศาสนาและไม่คิดจะสนใจ...เพียงเพื่อความสบายใจไม่ต้องอึดอัด


นอกจากนี้แล้ว ยังมีคนที่สนใจศาสนา นับถือกราบไหว้พระเจ้ายอมรับว่าพระเจ้าทรงมีอยู่จริง..

แต่กระทำไปในระดับของผลประโยชน์

ความเลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้าก็มีอยู่เพียงแค่ในความรู้สึกอบอุ่น มั่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวล

เพราะแน่ใจว่ามีพระเจ้าเป็นผู้ทรงช่วยสนองความต้องการต่างๆให้

การปฏิบัติศาสนกิจจึงอยู่แค่ความพยายามเอาอกเอาใจพระเจ้าเพื่อจะได้รับพระคุณต่างๆ ที่ต้องการเป็นการตอบแทน

ความสัมพันธ์กับพระเจ้าจึงอยู่แค่นั้นจริงๆ

ยามอยู่ดีมีสุข ก็ไม่คิดถึงพระเจ้า

แต่พอตกทุกข์มีเรื่องเดือดร้อน ก็จะหมั่นเพียรไปวัดไปวา เรียกหาพระเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อนทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ทำนพวารหลายรอบหลายตลบ ไปจนถึงการบนบานจาริกแสวงบุญ

เพียงเพื่อดึงพระเจ้ามาทรงช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ความเดือดร้อนให้หมดสิ้นไป

คนพรรค์นี้จึงไม่ลังเลที่จะบนบานศาลกล่าวขอพรพระเจ้าให้ทำกิจการชั่ว งานทุจริตบางอย่างสำเร็จ

เอาผลประโยชน์จากพระเจ้ายังไม่พอ ยังดึงพระองค์ลงมาให้มัวหมองอีกต่างหาก

พอได้รับพระคุณแล้วก็ลืมพระเจ้า จนกว่าจะมีความต้องการใหม่

ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การนับถือพระเจ้าคือกราบไหว้พระองค์ในความดีและความถูกต้อง เพื่อให้จิตใจผู้กราบไหว้ได้ซึมซับความดีและความถูกต้องของพระองค์

จนกระทั่งว่าชีวิตเขาดำเนินไปด้วยความดีและความถูกต้องของพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา และความไม่ดีไม่ถูกต้องในตัวค่อย ๆ หมดสิ้นไป

ตราบใดที่คนมองดูพระเจ้าเป็นคู่แข่ง หรือเป็นแค่ผลประโยชน์พระเจ้าก็คงต้องตายไปจริงๆ

พวกแรกพระองค์ตายเพราะพวกเขาไม่ยอมให้ตนเองมีชีวิตตามแบบอย่างของพระเจ้า

ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าไม่มีวันตาย นอกจากคนจะพยายามฆ่าพระองค์...ในตัวเขาเอง.