น้ำหวาน
คนพูดกันว่า สุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์
ไว้เป็นเพื่อนยามเหงา ไว้เฝ้าบ้าน ไว้หาทาง ไว้ต้อนฝูงสัตว์ ไว้ป้องกันตัว...
ยิ่งในบริบทของสังคมทุกวันนี้แล้ว สุนัขกลายเป็นแทบทุกอย่าง
ถึงขนาดหลายคนพูดคุยกับมันเหมือนรู้เรื่อง อีกหลายคนก็เรียกลูกทุกคำ
ถึงไม่เรียก ส่วนใหญ่ก็ให้ความเอ็นดู
ไม่ต้องพูดถึงคนที่เลือกเลี้ยงสุนัขบางพันธุ์ ซึ่งต้องให้การดูแลเลี้ยงดูอย่างดี...ดีกว่าเลี้ยงดูคนเสียอีก
ไม่ว่าที่พัก อาหาร การดูแลความสะอาด...
เพียงแค่เนเล่นในห้างสรรพสินค้า ก็จะเห็นแผนกอาหารสุนัข อาหารแมว...ยาวเหยียดไม่แพ้อาหารคน
พร้อมอุปกรณ์ตบแต่ง เลี้ยงดู ร้อยแปด...จนอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้
ต่างกับที่บ้านน้องสาวผม
รักเอ็นดูใช่ แต่เลี้ยงแบบติดดิน
ฝึกให้กินอาหารที่เหลือ...เศษเนื้อ เศษกระดูก
แถมก่อนจะได้กิน ยังต้องนั่งทับหาง ยกขาหน้าทำท่าทักทายคนเลี้ยง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพีธีการเลี้ยงแต่ละมื้อ
จนกระทั่งวันนั้น สุนัขตัวน้อย สีน้ำตาลไหม้ ที่เพื่อนแบ่งให้เลี้ยงเข้ามาในบ้าน
ระบบการเลี้ยงดูต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
แม้จะตัวเล็กน่ารักน่าชัง แต่หน่วยก้านกำยำ บอกถึงเผ่าพันธุ์ที่มา
และที่สำคัญ ใบหน้าที่ย่นตั้งแต่หัวลงมาถึงปากประกาศศักดาว่าดุแน่นอน
มองด้านไหนก็ไม่ชวนให้เจริญตาเสียเลย เพราะท่าทีไม่รับแขกหน้าไหนทั้งนั้น
บางคนชอบเลี้ยงสุนัขดุ แต่บ้านนี้ไม่ เพราะแขกเหรื่อไปมาแทบหัวกระไดไม่แห้ง
ไหนจะญาติพี่น้อง ไหนจะเพื่อนลูกเพื่อนพ่อเพื่อนแม่ ไหนจะคนรู้จัก...
ที่สุด ก็ลงมติเป็นเอกฉันท์...ถ้าพันธุ์มันดุ ก็ตั้งชื่อมันให้ดูเชื่อง
มันเป็นเคล็ดที่คนโบราณท่านถือกันมา
“น้ำหวาน” คือชื่อที่ดูดีที่สุด หลังจากปรึกษาหารือกันเป็นนาน
แม้ชื่อจะขัดกับใบหน้าของมันอย่างน่าเกลียด แต่ก็ดูได้ผล
มันคงจะไม่เข้าใจความหมายของชื่อ แต่อย่างน้อยสุ้มเสียงคนที่เรียกนิ่มนวล ส่อความเป็นมิตร
แค่นั้นทั้งโคนหางเล็กน้อยที่เหลือกับก้นของมันก็กระดิกไม่หยุดแล้ว
ถึงแม้ใบหน้าของมันจะไม่มีทีท่าเป็นมิตร แต่ทั้งเนื้อตัวออกอาหารอย่างเห็นได้ชัด
บางคนที่พบเห็นมันถึงกับพูดเป็นเชิงต่อว่า “อย่างนี้ก็เสียหมาหมด…”
แต่ก็ดีกว่าเสียคน
โดยเฉพาะคนที่มีชื่อและนามสกุลออกดี แต่พฤติกรรมนั้นตรงกันข้ามอย่างน่าเกลียด
อย่างที่เป็นข่าวให้สยดสยองเมื่อไม่กี่ปีมานี้
เด็กหนุ่มสามคน ข่มขืนและฆ่าสาวใหญ่...การกระทำที่ขัดกับชื่อนามสกุลโดยสิ้นเชิง
นายสมชาย ใจดี นายสมเกียรติ อ่อนน้อม และนายสุทิน ใจเย็น...
อย่าว่าแต่ชื่อและนามสกุลเลย แม้แต่คำว่า “คน” หรือ “มนุษย์” ก็น่าจะบ่งบอกอะไรที่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานแล้ว
น่าเสียดายหลาย “คน” แทบจะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากชื่อ
จนคนที่พบเห็นพฤติกรรมต้องเปลี่ยนไปเรียกเป็น “สัตว์” แทน
ไม่ว่าจะเป็น เสือ สิงห์ กระทิง แรด หรืออื่นๆ มากชนิด อย่างได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ
อดถามไม่ได้ว่า ขนาดเจ้า “น้ำหวาน” ยังมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปตามชื่อที่ตั้งให้
แต่ทำไมคนหลายคนกลับไม่เป็นเช่นนั้นบ้าง?.