Deep Thoughts|41

กว่าจะรู้ตัว


คนเรามักจะเห็นคุณค่าสิ่งใด ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นกำลังจะสูญสิ้นไป

สภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ กำลังยืนยันในสัจธรรมข้อนี้ได้ดี

ก่อนนี้มีใช้มีจ่าย ก็เพลิดเพลินทั้งใช้ทั้งจ่าย...แทบจะไม่เห็นคุณค่า

สังคมใดที่ใช้จ่ายเพื่อความฟุ่มเฟือยมากกว่าเพื่อความจำเป็น สังคมนั้นกำลังฆ่าตนเอง...อย่างผ่อนส่ง

สิ่งที่นำมาใช้นำมาบริโภค ก็เพียงเพื่อสนองความยาก มากกว่าความจำเป็น

ใช้กันไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย จนลืมคิดไปว่า ทุกสิ่งย่อมมีอันหมดสิ้นได้

แม้จะมีเงินซื้อหาก็เถอะ หากสิ่งต้องการซื้อหานั้นร่อยหรอลงไปแล้ว ก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน

แล้วที่สุด เงินก็มีค่าเพียงแค่เศษกระดาษ...แทบจะใช้ทำอะไรไม่ได้

แม้จะชั่งกิโลขายก็ยังไม่ได้เลย เพราะเงินจะซื้อเงินไม่ได้อยู่แล้ว

อย่างมากก็ได้แค่เงินแลกเงินต่างสกุลเท่านั้นเอง

แล้วก็ต้องหันไปหาแหล่งทรัพยากรจากที่อื่น

โครงการจะส่งมนุษย์ไปสร้างนิคมบนดวงจันทร์ ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกันมาก

เบื้องหลังนั้นจะมีเหตุผลอะไรบ้างก็แล้วแต่

ส่วนตัวผมแล้วอดเป็นห่วงแทนดวงจันทร์ไม่ได้

สัญชาติดิบอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการทำลาย

ไม่ว่าจะทำอะไร ก็มักจะมีการทำลายเป็นองค์ประกอบด้วยไม่มากก็น้อย

สงครามโลกสองครั้ง อีกทั้งสงครามระหว่างประเทศในประเทศ...ชี้บอกชัดเจนว่ามนุษย์มีแนวโน้มแห่งการทำลายมากกว่าการสร้าง

และแม้แต่จะสร้างอะไร ก็ต้องทำลายบางอย่างเพื่อสร้าง...แทบทุกครั้งไป

หลังจากช่วยกันถลุงทรัพยากรของโลกใบนี้อย่างมันมือ แถมทำให้ระบบต่างๆ เสียความสมดุลย์แล้ว ก็พากันมองหาดาวดวงอื่น...เพื่อเป็นทางออก สนองตัณหาต่อไป

จิตใจคนเรานี่แปลก หากจะมีน้อยแล้วค่อยมีมากขึ้นก็พอทำได้ แต่หากมีมากแล้วต้องมีน้อยลงมักจะทำกันไม่ได้

ก็อย่างที่พูดๆ กัน “จมไม่ลง...”

ช่วงเศรษฐกิจไทยทรุด พิสูจน์ความจริงนี้ได้ชัดเจน

กว่าจะมารู้มาเห็นคุณค่าของสิ่งที่มี ก็มักเกือบสายไปเสมอ

แล้วก็ตาลีตาลานหาทางรักษาสิ่งที่เหลืออยู่...จนเลยควาพอดีไปก็มากต่อมาก

สัตว์บางชนิดกำลังสูญพันธุ์ ก็มีการรณรงค์อนุรักษ์ไว้ทุกวิถีทาง

ถึงขนาดทุ่มทุนเลี้ยงดูเอาใจใส่มัน ยิ่งกว่าแม่สัตว์เสียอีก

จนบางครั้งทำให้อดเปรียบเทียบไม่ได้

ทีสัตว์ใกล้จะสูญพันธ์ คนก็พากันมห้ความทะนุถนอม แถมประชาสัมพันธ์กันเป็นข่าวเป็นคราวเสียใหญ่โต

แต่เด็กที่กำลังอดตาย ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น ถูกทิ้งขว้าง...กลับไม่มีใครใยดี หรือประโคมข่าวให้รู้ ให้เห็น ให้ช่วย

ทีมีการกักขังสัตว์ป่าสัตว์สงวน ก็มีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับปรับโทษสถานหนัก

แต่เด็กที่ถูกกักขังใช้แรงงานเยี่ยงทาส...กลับไม่ค่อยได้สนใจ

ทีสัตว์ป่าถูกไล่ที่ไร้แหล่งอาศัยต้องเร่ร่อนหนีตาย คนก็พากันตั้งกองทุนจัดที่อยู่ให้พร้อมมาตรการดูแลรักษาเสร็จสรรพ

แต่เด็กเล็กเด็กโตที่ต้องหนีออกจากบ้าน เตร่เร่ร่อนอยู่ตามถนน...กลับไม่เห็นเป็นปัญหาต้องลงทุนลงแรงกันเลย

แม้จำนวนเด็กจะไม่ลดน้อยถอยลง แต่ความเป็นเด็กกำลังจะสูญพันธ์ไปต่อหน้าต่อตา...อย่างน่าเป็นห่วง

หากรู้จักเห็นคุณค่าสิ่งของ จะใช้จะสอย จู้จักใช้เผื่อเหลือเผื่อเกิน ก่อนที่มันจะหมดสิ้นไป ก็คงไม่ต้องมาเสียดาย มาทุกข์มาลำบากกันอย่างเดี๋ยวนี้

หากรู้จักเห็นคุณค่าของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของเด็กๆ รู้จักรักทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ก็คงไม่ต้องมากลัดกลุ้มปวดหัวกับปัญหาคนปัญหาเยาวชนอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้

มาเห็นคุณค่ากันเถอะครับ ก่อนที่จะไม่มีเหลือให้เห็น.