Deep Thoughts|38

ลำดับคุณค่า


เดี๋ยวนี้หากินลำบากครับ...”

คนขับแท็กซี่ชวนคุย หลังจากที่มีการชี้แจงที่หมายและเส้นทางที่น่าจะใช้

ขับรถแท็กซี่เดี๋ยวนี้ บอกแค่ปลายทางอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องบอกเส้นทางที่จะไป...ทางที่สั้นและใช้เวลาน้อยที่สุด

เรื่องของเวลาที่ต้องใช้เพื่อไปไหนมาไหน ก็ยังพอจะทำใจได้

สภาพการจราจรอย่างที่พบเห็นกันอยู่ทุกวัน สอนคนให้ใจเย็นลงเยอะ

แต่เมื่อเวลาไปเกี่ยวกับเงินที่ต้องจ่าย...ต้องเขียมใช้ให้ประหยัดสุดๆ

เวลาเป็นเงินเป็นทอง” ที่มักจะพูดกันนั้น เห็นเป็นรูปธรรมกันชัดเจนก็ตอนต้องใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์นี่แหละ

คนขับแท็กซี่สู้ค่าเช่าไม่ไหว เลยกลับไปต่างจังหวัดกันหมด...รถจอดกันเต็มอู่...”

มันก็คงต้องเป็นเช่นนั้น แม้ค่าเช่ารถยังคงเดิม แต่ค่าน้ำมันขึ้นราคาแทบทุกวัน

และที่สำคัญ ผู้คนไม่ค่อยกล้าจะเรียกนั่งเหมือนเมื่อครั้งเศรษฐกิจเฟื่องฟู

แต่ผมก็ต้องทนทำไป...เพื่อลูกสามคน...วัยกิน วัยนอน วัยเรียน...”

ความรักและความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อ คงไม่ยอมให้ท้อแท้ง่ายๆ

ตัวคนเดียว ไม่มีก็พอจะอดอยากปากแห้ง หวังพึ่งเอามื้อหน้าได้...อย่างไรเสียก็เดือดร้อนต้องท้องแห้งแค่ตัวคนเดียว

แต่คนที่มีพันธะ เมื่อไรไม่มีก็เป็นเรื่อง...ไม่ท้องแห้งจนหน้ามืดอย่างเดียว ยังต้องปวดร้าวดวงใจอย่างเหลือทน เมื่อคนที่รักไม่มีอะไรยาไส้...

เช้าผมจะรีบไปส่งลูกเข้าโรงเรียน แล้ววิ่งตะลอนรับผู้โดยสาร...เหนื่อยล้าขนาดไหนก็ไม่กล้าหยุด ทำเวลาหาเงินให้ลูก...พอใกล้เลิกเรียน ผมก็จะรีบไปรับลูกกลับบ้าน ดูแลให้ลูกกินข้าวกินปลา ฝากให้อยู่กับย่า แล้วก็ออกไปหาผู้โดยสารต่อ...

ผมถือเป็นหน้าที่ที่จะไปรับลูกด้วยตนเอง เพราะไม่อยากปล่อยให้ไปกับเพื่อนๆ...หนึ่งชั่วโมงที่ให้กับลูก ผมว่าคุ้มกว่าเงินสองร้อยสามร้อยที่อาจจะได้ในช่วงนั้น...เพราะหากลูกคบเพื่อนไม่ดีและเสียผู้เสียคนไป เงินทองเท่าไรก็ไม่สามารถจะซื้อลูกคืนมาได้...

เงินที่น่าจะได้ในหนึ่งชั่วโมงที่ไปรับลูก ผมถือว่าซื้อความรักความอบอุ่นให้ลูกๆ ดีกว่า...เพราะผมถือว่า หากจัดปัญหาจิตใจให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยไปด้วย...”

คาดคะเนด้วยสายตา เขาคงอายุไม่มาก แต่ความคิดความอ่านนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

ตั้งแต่หย่าขาดกับภรรยาแล้ว ผมเลยทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อเป็นทั้งแม่ ให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกเต็มความสามารถ...ทุกค่ำกลับบ้าน ลูกๆ แย่งกันมานอนกับผม จนผมต้องจัดเวรให้ (หัวเราะ)...เพราะลูกนี่แหละที่ทำให้ผมตั้งปณิธานจะไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและผู้หญิงเด็ดขาด ผมถือว่าถ้าลูกเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ดีมีความอบอุ่น ก็จะไม่ไปก่อปัญหาปวดหัวให้แก่สังคมในภายหน้า...จึงต้องให้เวลาและความสนใจลูก ไม่เช่นนั้นลูกจะไปหาเอาจากที่อื่น ไปหาเพื่อน ไปเที่ยวเตร่...”

วันนั้น ระยะทางจากที่ทำงานไปสนามบินดอนเมืองดูสั้นเป็นพิเศษ

แม้รถจะติดยาวเหยียด ในช่วงลงจากโทลเวย์ไปถึงทางขึ้นอาคารผู้โดยสารขาออกต่าง

ประเทศ แต่ผมกลับไม่รู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใด

ในใจลึกๆ ก็ยังอยากให้รถติดมากกว่านี้อีกหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาฟังเรื่องราวจากคนขับแท็กซี่พ่อลูกอ่อนคนนี้ต่ออีกหน่อย

ถึงแม้จะเป็นการสนทนาที่แทบจะไม่ได้มองหน้ากัน แต่ก็สื่อเรื่องราวได้น่าสนใจยิ่ง


ในยุคแห่งความสับสนด้านคุณค่า การได้พบเห็นบุคคลที่ยังคงยืนหยัดในลำดับคุณค่าอันแท้จริงของชีวิต ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ

ถ้ามองลึกเข้าไปในปัญหาต่างๆ ที่พบเห็นในสังคมทุกวันนี้ จะพบว่าสาเหตุใหญ่มาจากการให้ความสำคัญแก่คุณค่าต่างๆ ผิดไป

สิ่งที่มีคุณค่าเพียงเล็กน้อย หรือแค่ผิวเผิน ได้รับความสนใจทุ่มเทแรงกายแรงใจให้

ในขณะที่คุณค่าแท้จริงและสูงส่ง กลับถูกมองข้ามหรือทิ้งขว้างไปอย่างน่าเสียดาย

กว่าจะรู้ว่ากำลังสูญเสียคุณค่าเหล่านี้ไป ก็สายเกินแก้เสียแล้ว

และนี่คือตัวปัญหาแท้จริง...ของสังคมปัจจุบัน