ยากที่จะพบเห็น
รถแท็กซี่ป้ายดำจากเมืองเชียงใหม่วิ่งผ่านชุมชน “แม่แตง” ได้สักพักใหญ่ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนแคบๆ
น้ำอ้อยสีน้ำตาลดำจากโรงงานน้ำตาลที่ถูกนำมาลาดกันฝุ่นยังไม่เป็นแห้งสนิท ส่งกลิ่นหวานหอมสองฟากฝั่งถนนต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกเรียงรายไปตามความคดเคี้ยวของถนน
บ้านเรือนไม้สองชั้นสร้างเพียงเพื่ออาศัยอยู่ตั้งห่างกันเป็นระยะ ตามกรรมสิทธิ์ที่ดิน จับจองครอบครองกันมาช้านาน
แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแสนนาน แต่สำหรับบางคนที่นั่งมาในรถ ถนนสายนี้เต็มไปด้วยอดีตแห่งวัยเด็กที่ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
โค้งทุกโค้ง ต้นไม้ทุกต้น กลิ่นอายธรรมชาติ มีเสี้ยวประวัติศาสตร์ส่วนตัวที่น่าจดจำความสนุกสนาน ความลำบาก ความตื่นเต้น ความกลัว...ยังคงสิงสถิตอยู่บนทางสายนี้ รอคอยให้คนที่เติบโตมาจากที่นี่ กลับมารื้อฟื้นมันครั้งแล้วครั้งเล่าตัวด้วยรอยยิ้ม ด้วยเสียงหัวเราะ ด้วยการพูดคุยเล่าขาน
รถมาจอดสนิทอยู่หน้าบ้านไม้สองชั้นกลางสวนใหญ่เพียงแค่ก้าวออกจากรถ ก็สามารถสัมผัสถึงเสียงเพลงของธรรมชาติ แสนจะบริสุทธิ์ อบอุ่นเสนาะหู..
ธรรมชาติคงโกรธไม่น้อย เมื่อเสียงเครื่องยนต์มือสองของแท็กซี่ป้ายดำแผดคำรามทำปู้ยี่ปู้ยำมาตลอดเส้นทางที่เลี้ยวจากถนนใหญ่เข้ามา
พอเสียงแปลกปลอมดับลง ธรรมชาติก็เริ่มขับขานประสานเสียงกล่อมจนต้องตกในภวังค์ เสียงใบไม้ไหวไปตามสายลมแผ่ว เสียดสีกันเป็นเสียงดนตรีประกอบ ขณะที่เสียงนกนานาชนิดร้องขานกันเจื้อยแจ้ว สลับกับเสียงแมลงน้อยใหญ่ ไม่ต่างจากเสียงนักร้องนำในวงประสานเสียงที่ดูจะไม่มีวันเลิกรา..
“อุ๊ยเข้ามาบุกเบิกที่นี่นานมาแล้ว...” คุณตาเจ้าของบ้านวัยเกือบเก้าสิบพูดภาษาไทยปนสำเนียงเหนือ พลางยกมือขวาลูบศรีษะที่ตัดเกรียน ท่าทางเขินซื่อๆ ประสาชาวบ้าน
“ตั้งแต่สมัยเดินชี้อาณาเขตกันเอาเองเลยแหละ แล้วก็ถางป่าถางดงปลูกพืชปลูกไร่...” คุณตาพูดต่อ กวาดตาไปรอบๆ เนื้อที่คล้ายจะชี้ให้ดูผลงานจากหยาดเหงื่อแรงใจของตายาย
โคนต้นไม้ใหญ่ที่ถูกขุดขึ้นมาปักดินรากชี้ฟ้าเรียงรายไปตามสวนชี้บอกให้รู้ว่า ส่วนหนึ่งของชีวิตตายายถูกใช้ไปเพื่อแลกมาซึ่งที่ทำกินเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานจนได้ดิบได้ดีกันไปทุกคน
“อุ้ย ไม่เคยกลัว เรามีพระอยู่กับเรา... คนอื่นเห็นเป็นคนดีเขาก็ไม่คิดร้าย...” คุณตาพูดถึงหลักยึดเหนี่ยวจิตใจที่ยึดถือมาอย่างคงเส้นคงวา ถ่ายทอดไปยังชั่วลูกชั่วหลานด้วยความเคร่งครัด
“ลูกเขยคนหนึ่งเป็นครูมาจากอีสาน มารักมาชอบลูกสาวอุ้ย...” คุณตาคุยถึงความเชื่อในพระเจ้าที่ท่านหวงแหน “อุ้ยจับเรียนคำสอน 3 ปี จนแน่ใจนั่นแหละ จึงยอมยกลูกสาวให้...”
คุณตาเป็นหมอยาสมุนไพรชื่อดัง ผิวพรรณของคุณตาคุณยายแม้ในวัยนี้ ยังดูดีผิดหูผิดตา “ก็สมุนไพรนั้นแหละ...” คุณตาชี้แจง “เจ็บป่วยก็ใช้มันรักษาไม่ต้องไปหามดหาหมอให้เปลืองสตางค์...ชาวบ้านก็มาหาขอให้ช่วยรักษา บางทีมาตามค่ำคืนดึกดื่นก็ต้องไป ต่างจังหวัดก็มาตามให้ไปรักษา...ถือว่าช่วยเหลือกันไป... มาตอนนี้ต่างจังหวัดอุ๊ยไปไม่ไหวแล้ว…”คุณตาเล่าซื่อๆ สลับกับเสียงหัวเราะประสาคนอารมณ์ดี
“พระเจ้าสร้างต้นไม้ต่างๆ มา ล้วนดีมีประโยชน์ทั้งนั้น...” คุณตาบอกถึงที่มาของความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร “ต้นไม้ต้นหญ้าทุกชนิดเป็นยาทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ต้องหาวิธีใช้ให้เป็นประโยชน์...ไม่ใช่ทิ้งข้างทำลาย...น่าเสียดาย” คุณตาพูดแล้วก็ถอนหายใจยาว
นั่นคือหนังสือพระคัมภีร์ที่คุณตาอ่านทุกวัน...ต้นไม้ สายน้ำธรรมชาติ นั่นแหละคือตัวอักษรที่คุณตาอ่านแล้วเห็นความยิ่งใหญ่และความรักของพระเจ้า
ธารน้ำน้อยๆ ไหลผ่านที่ดินของคุณตา เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้แก่ดินและแมกไม้ ส่วนหนึ่งของน้ำ ถูกทดมาเข้าบ่อเลี้ยงปลาสามบ่อที่หลานตาคนหนึ่งนำปลามาปล่อยไว้
ปลารุ่น ๆ โผล่ขึ้นมากินรำที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ทำให้รู้ถึงจำนวนปลาที่มีอยู่ในแต่ละบ่อ “ปลามันต้องอยู่ในน้ำจึงจะมีชีวิตอยู่ได้ แถมชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย...”คุณตาพูดเปรยๆ ขณะเฝ้ามองดูปลาว่ายเวียนไปมาในบ่อ
“คนก็ต้องอยู่ในน้ำเหมือนกัน...” คุณตาพูดต่อ สายตายังอยู่ที่ปลา “น้ำจิตน้ำใจ น้ำใสใจจริง...จึงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีสุข...”
แท็กซี่ป้ายดำแผดเสียงผ่าน “แม่แตง” เมื่อไรผมไม่ได้สังเกต ด้วยซ้ำ ผมได้หลายอย่างจากคุณตามาคิด จนไม่อยากจะสนใจอะไรอื่นอีกแล้ว ในตอนนั้น.