Deep Thoughts|28

มัจจุราช (ที่รัก?) 2

ก่อนอื่น ต้องยอมรับว่าสังคมทุกวันนี้ เส้นแบ่งแยกที่ชัดเจนแทบจะไม่มีหลงเหลือแล้ว

จะว่าสังคมทุกวันนี้เป็นสังคมผสมผสานและออมชอมก็ไม่ผิดนัก

แม้บุคคลในสังคมก็เถอะ จะหาไทยแท้ จีนทั้งแท่ง หรือฝรั่งจ๋ายากขึ้นทุกที

ส่วนมากก็จะเป็นลูกครึ่งให้เห็นเต็มบ้านเต็มเมือง

คนดี คนชั่ว ก็ยากจะแยกแยะให้เห็ดชัดเจนเป็นสัดเป็นส่วน

มองดูน่าจะเป็นคนดีมีศีลธรรมกลับกลายเป็นคนชั่ว หรือเห็นท่าทีน่าจะเป็นคนเลวกลับเป็นคนดีมีน้ำใจ

เส้นแบ่งวัยวุฒิ ก็มีให้ใช้วัดเป็นหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐานอีกแล้ว

ดูวัยน่าจะเป็นเด็กแต่พฤติกรรมที่แสดงออกมาผู้ใหญ่ยังต้องอับอายแทน หรือท่าทางเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแต่กลับเป็นแค่เด็กชิงสุกก่อนห่าม

แม้แต่เพศชายเพศหญิง ก็ยังยากจะสังเกต

ดูน่าจะเป็นกุลสตรีเต็มตัว แต่พฤติกรรมการแสดงออกนั้นแม้ผู้ชายอกสามศอกยังต้องชิดซ้าย หรือเห็นรูปร่างน่าจะเป็นแมนเต็มร้อย กลับกระตุ้งกระติ้งคะขาไม่หยุดปาก

ไม่ต้องพูดถึงการไว้ผมยาวผมสั้น ไม่มีการผูกขาดเพศใดโดยเฉพาะ

ที่สุด ความผิดปกติก็อยู่ปนเนผสมผสานกับความปกติจนดูไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

จนหลายอย่างที่น่าจะจัดเข้าข่ายเป็นยาเสพติด กลับถูกมองข้ามเห็นเป็นของธรรมดาไป

แล้วก็ไปเพ่งเล็งอยู่แค่อย่างสองอย่าง ในขณะที่คนติดยาเสพติดประเภทอื่นๆ กันงอมแงม

เสพติด “เงิน” กันจนแทบจะลืมได้หมดทุกอย่าง

ยิ่งมียิ่งอยากได้มากขึ้นอย่างไม่รู้จักเพียงพอ

พอได้มันมาก็ “หลุด” ไปจากความเป็นจริง

ให้คุณค่าบูชาเงินตรามากกว่าความรัก มิตรภาพ ครอบครัว แม้กระทั่งพระเจ้า

แล้วก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่างเพื่อได้มันมาอีก และได้กระทั่งศักดิ์ศรีความเป็นคน ความถูก ความผิด ประเทศชาติ อุดมการณ์...

เสพติด “อำนาจ” จนกลายเป็นความกระสันฝันใฝ่ให้บาตรใหญ่คับฟ้า

พอได้มาก็ “หลุด” ไปจากความเป็นจริงจนลืมแม้กระทั่งกำพืด ไม่เห็นหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนอีกแล้ว


และเพื่อจะได้มันมาก็พร้อมจะทุ่มเททุกอย่าง...เงินทองข้าวของ เกียรติยศชื่อเสียง

สังเวยได้แม้กระทั่งชีวิตตั้งแต่คนใกล้ชิดที่เคยจมหัวล่มท้ายมาด้วยกันไปจนกระทั่งชีวิตคนไร้มลทินไม่รู้อิโหน่อิเหน่

แล้วก็เกิดอาการ “บ้าอำนาจ”...ร้ายแรงไปกว่าบ้ายาม้ายาอีเสียอีก

เสพติด “กามรส” จนวันๆ ความคิดจิตใจเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับมัน ตะกละตะกรามไม่เลือก

หลงระเริงจน “หลุด” เลยไปจากความพอเหมาะพอสมและความถูกต้อง

แม้แต่สัญชาตญาณที่ควบคุมราคะสัตว์อื่นๆ ไว้ได้ ก็ไม่สามารถจะควบคุม “สัตว์ประเสริฐ” นี้อยู่

กระทั่งก่อให้เกิดกระบวนการซื้อขาย การพราก การหลอกลวง การขู่เข็ญบังคับ ข่มขืน เข่นฆ่า...ให้ต้องหวั่นวิตกไปทั้งสังคม

เสพติด “วัตถุ” เมามัวยึดติดกับมันจนขาดไม่ได้

คลุกคลีอยู่กับมันจน “หลุด” ไปให้เสียศูนย์

เห็นวัตถุสิ่งของสำคัญมากกว่าจิตใจและคุณธรรม

แม้แต่ศักดิ์ศรีมนุษย์ก็เอาไปตั้งอยู่บน “การมี” มากกว่า “การเป็น”

ถึงไม่จำเป็นต้องใช้สอย แต่ขอให้มีไว้ในครอบครองก็ให้รู้สึกเป็นสุขแล้ว

วันไหนไม่ได้ “ช้อปปิ้ง” ให้รู้สึกดั่งอดอยากปากแห้งใจโหวงเหวง ทั้งๆ ที่ของล้นตู้ไม่มีที่เก็บ


อย่างที่บอกแล้ว ในเมื่อสังคมผสมผสานและออมชอมจนยากจะแยกแยะอะไรเป็นอะไรได้ชัดเจน การจะมองเห็นโทษเห็นผิดของหลายอย่างที่เป็นดุจ “มัจจุราช” คร่าทำลายชีวิตและจิตใจของคนทุกวันนี้ก็เลือนลางไปทุกที

จะเห็นชัด จะเน้น จะพูด ก็เพียงไม่กี่อย่าง

อีกหลายอย่างทั้งที่รู้ว่าเป็น “มัจจุราช” แต่ก็ดูน่ารักน่าพิศมัย จนอดเติมคำว่า “ที่รัก” เข้าไปด้วยไม่ได้.