มัจจุราช (ที่รัก?) 1
ตั้งแต่มีรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ปัญหายาเสพติดดูจะได้รับการพูดถึงกันมาก
แถมมีผลงานจับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายให้เห็นแทบทุกวัน
แต่ก็แปลกแม้จะมีการเพิ่มโทษและระดมการกวาดล้าง ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายดูจะไม่หวาดหวั่น
ก็เพราะผลตอบแทนนั้นมันคุ้มค่าต่อการเสี่ยงหลายสิบหลายร้อยเท่า
เงินมหาศาลที่ได้มาเป็นกอบเป็นกำ มีมากเกินพอไว้ประกันตัวหากเพี่ยงพล้ำถูกจับ
แถมยังมีเหลือเฟือไว้ซื้อตัวปิดปากเจ้าหน้าที่ปราบปรามได้อย่างฉมัง
ที่สุดแล้ว การปราบปรามยาเสพติดก็ทำไปทำนองปราบหญ้าแห้วหมู
เด็ดใบหญ้าทิ้ง แต่ไม่เคยไปแตะต้องรากเหง้าชนิดถอนรากถอนโคน
ไม่แปลกใจที่หญ้าแห้วหมูยังขึ้นรกเต็มสวน
ระบาดไปทั่วหัวระแหง ติดกันงอมแงมตั้งแต่คนใหญ่ไล่ลงมาวัยรุ่นวัยเด็ก
มีจำหน่ายทุกแห่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งในสถานการศึกษา
ก็พ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติหันมารวยลัดกับการบ่อนทำลายอนาคตของชาติเสียเอง เด็กที่ไหนจะพ้นเงื้อมือมัจจุราชในรูปแบบยาเม็ดเล็ก ดูไร้พิษสง เหล่านี้ได้?
ที่มีเงินน้อยร้อยกว่าบาท ก็ต้องพอใจกับแค่ยาบ้าราคาซื้อหาพอดีกัน
ที่มาจากครอบครัวมีอันจะกินหน่อย ก็เที่ยวซื้อหายา Ecstacy เม็ดละ 800-1,000 บาท
เพียงเพื่อแลกเปลี่ยนกับ “การหลุดพ้น” ชั่วระยะหนึ่ง
หลุดพ้นจากตนเอง หลุดพ้นจากปัญหา หลุดพ้นจากความจำเจซ้ำซาก หลุดพ้นจากสถานภาพ หลุดพ้นจากกรอบสังคม หลุดพ้นจากความกังวลถึงอนาคต หลุดพ้นจากกาลเวลา...
สรรพคุณนั้นทันตาเห็น เปลี่ยนได้แม้กระทั่งบุคลิก
จากขี้ขลาดขี้อาย กลายเป็นกล้าจนบ้าบิ่น จากพูดน้อย เป็นคนต่อยหอยไม่รู้จบ
สิ่งที่เคยควบคุมตนเองไว้ หายสิ้นไปในพริบตา เหลือแต่สนุกสนานกับการเต้นได้ทุกจังหวะทุกบทเพลง
เพลินแม้กระทั่งกับการนั่งมองแสงไฟและวัตถุสะท้อนแสง...
จนกว่ามันจะหมดฤทธิ์นั่นแหละ อาการหวนกลับจึงเริ่มส่งผล
หมดเรี่ยวแรง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ไร้ซึ่งชีวิตชีวา อารมณ์หวั่นไหว... จนอดรนทนไม่ได้ ต้องหาทาง “หลุดพ้น” อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้งหนึ่ง
นั่นคือยาเสพติด มัจจุราชที่คอยฉุดกระชากลากออกจากโลกแห่งความเป็นจริง ไปสู่โลกแห่งความเลื่อนลอย ไร้ตัวตน
ทุกครั้งที่คร่าเหยื่อได้แล้ว ทันจะกัดไม่ปล่อย ฝังเขี้ยวเล็บคมกริบสองอันลึกเข้าไปถึงไขกระดูก
เขี้ยวแรก เมื่อเสพแล้ว ก็จะ “ติด” จนไม่อาจจะเลิกได้
มันกลายเป็นวัฏจักรแห่งความต้องการที่นำไปสู่ความต้องการ อย่างไม่รู้จบ
เขี้ยวสอง เสพแล้วทำให้ “หลุด” ไปจากโลกแห่งควงามเป็นจริง
จากโลกแห่งความเจ็บปวดไปสู่โลกที่ไร้ความสำนึกใดๆ
จากโลกแห่งปัญญา ไปสู่โลกที่ลืมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กปัญหาใหญ่
จากโลกแห่งความทุกข์ ไปสู่โลกไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ จนให้รู้สึกเบาหวิว
จากความทรงจำ ไปสู่โลกที่ไม่มีอดีต ไม่มีแม้กระทั่งปัจจุบัน
จากกาลเวลาไปสู่ช่วงเวลาไร้วันไร้คืนไร้เดือนไร้ปี
ว่ากันแล้ว ยาเสพติดคงไม่ใช่แค่สองอย่างที่พากันหวาดหวั่นวิตกอยู่ในขณะนี้เท่านั้น
หากคือทุกสิ่ง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ที่ก่อให้เกิดสองอย่างนี้ขึ้นมา กล่าวคือ การติดและการหลุดพ้น พ้นไปจากความเป็นจริง พ้นไปจากการครองตน...
ถึงแม้จะไม่มีการตรากฎหมาย ขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดต้องโทษ แต่สมรรถนะการทำลายไม่แพ้กัน
ท่านผู้อ่านลองคิดดูสิครับ อะไรบ้างที่ทำให้ “ติด” และ “หลุดพ้น” ที่น่าจะจัดเข้าเป็นยาเสพติดประเภทหลังนี้บ้าง
ฉบับหน้าผมจะมาคุยให้ฟัง.