รสชาติชีวิต
ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารโปรดปรานอย่างหนึ่งของหลายคน
หาทานง่าน อร่อย และราคาพอสู้ได้
ก่อนนี้ผมเคยคิดว่ามีที่มาจากเมืองจีน พอไปที่นั่นก็เที่ยวถามหา
อยากรู้ว่าต้นตำรับจะอร่อยกว่าบ้านเราแค่ไหน แต่ก็ต้องผิดหวัง
มาสมหวังก็ตอนไปเวียดนาม มีร้านก๊วยเตี๋ยวขายเต็มไปหมด
แม้รสชาติการปรุงจะไม่เด็ดเหมือนบ้านเรา แต่ก็ไม่ผิดหวัง
โดยเฉพาะ ผัดสดหลายหลากชนิดที่นำมาให้บริการคู่ไปกับก๋วยเตี๋ยว
คงเพราะเหตุนี้เอง คนเวียดนามจึงหุ่นดีกันเป็นส่วนมาก
ก๋วยเตี๋ยวบ้านเขาชามเดียวก็อยู่ท้องแล้ว แถมได้ธาตุอาหารครบถ้วน
จะว่ากันแล้ว ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารชนิดเดียวที่คนกินต้องยุ่งกับการปรุงแต่งเติมรสชาติให้อร่อย
อาหารอย่างอื่นๆ มักจะมีการปรุงมาเสร็จสรรพ จะเติมนิดเติมหน่อยก็น้ำปลาน้ำซอสให้ได้รสถูกปาก
ทานก๋วยเตี๋ยวจึงเป็นทั้งการบริโภคและการปรุงอาหารไปในเวลาเดียวกัน
เพื่อนผมคนนี้เขาจริงจังมากกับเรื่องนี้
ไปไหนด้วยกัน ถ้าสั่งอาหารอย่างอื่นทาน เขาจะไม่มากเรื่อง
“สั่งมาเถอะ ทานได้ทั้งนั้น…” เขามักจะพูดตัดบททุกครั้งที่มีการปรึกษารายการอาหาร
แต่ครั้งใดที่มีการทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน คนอื่นต้องเงียบหมด
หลังจากแย่งกันสั่งเส้นเล็กเส้นใหญ่ งอกไม่งอกแล้ว เพื่อนผมคนนี้จะเริ่มสำรวจเครื่องปรุงทันที
“น้อง ช่วยเติมเครื่องปรุงหน่อย” คำพูดที่มักจะตามมาเป็นปกติวิสัย หลังจากตรวจตราความสะอาดของภาชนะที่ใส่ และเครื่องปรุงแล้ว
เมื่อชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ถูกลำเลียงมาวางข้างหน้าทุกคนแล้ว เพื่อนผมใช้ช้อนตักน้ำซุปขึ้นมาชิมเป็นอย่างแรก แล้วทำตาลอยลิ้มรสมันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่พักใหญ่
ภายในช่วงเวลาแค่นั้น เพื่อนผมเขาสามารถแยกแยะสิ่งที่เป็นองค์ประกอบของน้ำซุปได้อย่างละเอียดลออ ไม่ต่างกับนักเคมีปฏิบัติการในห้องแล็ป
แล้วนั้นก็เป็นการเข้าสู่กระบวนการปรุงที่เต็มด้วยขั้นตอน...น้ำปลา น้ำตาล พริก น้ำส้ม...แต่ละอย่างถูกใส่เข้าไปตามจำนวนช้อนด้วยท่าทีมั่นใจและรู้ดี ชนิดไม่ต้องใส่ไปชิมไปให้มากเรื่อง
น้ำซุปใสๆ ชามนั้น เปลี่ยนเป็นมีสีสันชวนทานในชั่วเวลาอันสั้น
“ใครอยากรู้ว่าก๋วยเตี๋ยวรสชาติควรเป็นอย่างไร ให้ลองตักชิมได้นะ...” เพื่อนผมพูด หลังจากใช้ตะเกียบคีบเส้นเข้าปาก ตามด้วยน้ำซุปสองช้อน สีหน้าบอกความสะใจ สมหวัง...อย่างเห็นได้ชัด
“เอาอีกแล้ว นี่ใจคอจะกินเส้นก๋วยเตี๋ยวกับน้ำต้มหรือไง...” เพื่อหันมาพูดกับผม เมื่อเห็นชามก๋วยเตี๋ยวของผมสีสันยังเหมือนกับตอนถูกยกมา
“ก็รสชาติเขาปรุงมาดีแล้วนี่นา ชอบกินอย่างนี้แหละ” ผมแก้ตัวให้ดูดีขึ้น ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจว่าผมปรุงรสชาติไม่เก่ง
เคยใส่น้ำปลาจนเค็ม ต้องแก้ด้วยน้ำตาลจนหวาน แล้วก็ต้องแก้ด้วยน้ำส้มไม่ให้เลี่ยน แถมพริกเข้าไปอีกหน่อยให้ชวนกิน...ลงเอยก๋วยเตี๋ยวชามนั้นของผมสีสันน่ากิน แต่กินต่อไปไม่ไหว
ต้องสั่งชามใหม่ และทานอย่างที่มันอย่างนั้น ก่อนที่จะหิวตาลาย
ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ทานก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนคนนี้ผมต้องวานให้เขาปรุงรสชาติให้เป็นประจำ
และไม่เคยผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตคนเราในแง่หนึ่งไม่ต่างไปจากก๋วยเตี๋ยว
ทุกคนได้มาเหมือนกัน แต่บางคนทานได้เอร็ดอร่อย ได้รสได้ชาติ ในขณะที่หลายๆ คนทานเพียงแค่ไม่ให้หิว
ทุกชีวิตพระเจ้าประทานมาคล้ายคลึงกันหมด
แต่ไม่ใช่ทุกคนรู้จักใช้เวลา สิ่งของเงินทอง โอกาส...เพื่อปรุงแต่งให้ชีวิตมีความสุข มีรสชาติ มีน่าอยู่
ทั้งๆ ที่ทุกคนมีเวลา มีสิ่งของเงินทอง มีโอกาส มากบ้าง น้อยบ้าง
ขนาดก๋วยเตี๋ยวชามละสิบบาทยี่สิบบาท ยังสามารถปรุงแต่งให้เอร็ดอร่อย จนสุขใจกับการกินมันแต่ละครั้ง ได้ถึงขนาดนี้
สาอะไรกับชีวิตที่มีคุณค่าจนไม่อาจจะประเมินได้ของเราแต่ละคน?*.