หลักยึดเหนี่ยว
การประกาศให้ค่าของเงินบาทลอยตัว
ทำให้ต้องวิตกถึงผลที่ตามมาในทุกระดับ
ข้าวของ สิ่งใช้สอยคงต้องลอยตามค่าเงินบาท
ก็ในเมื่อสิ่งของต่าง ๆ มีราคาเป็นบาท มีหรือที่
เงินบาทลอยแล้วไม่ทำให้อื่นๆ ต้องพลอย “ลอย” ตามขึ้นไปด้วย?
หากแม้นทุกอย่างจะลอยตามไปก็คงพอทำเนา
นี่มีแค่ “ราคา” สินค้าลอย แต่เงินเดือนค่าจ้าง
ยังคงที่เหมือนเดิม...นั่นแหละความหายนะสำหรับหายคน
ก่อนนี้ แค่ร้อยบาท ก็เหลือกินเหลือใช้ มีให้เก็บ เกินครึ่ง
ซื้อข้าวซื้อของแล้วยังมีตังค์ทอนให้เก็บให้ใช้
จ่ายอย่างอื่น
แต่เดี๋ยวนี้ยังต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีกหลายสิบ เพื่อจะซื้อสิ่งของเดียวกัน
ก่อนนี้เด็ก ๆ ไปเที่ยว ขอตังค์พ่อแม่สิบ ยี่สิบยังให้รู้สึกเกรงใจ
แต่เดี๋ยวนี้ให้ต่ำกว่าร้อย จ้างก็ไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น
แล้วแนวโน้มคงจะมีต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ...ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลเปลี่ยน
เกือบทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลง
แต่ราคาสินค้ามีแต่ขึ้น ยังไม่เคยมีการประกาศลดราคาสินค้ากันเลย
แม้ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งประกาศ ทั้งขอร้อง ทั้งขู่...ราคาสินค้าก็ขึ้นอยู่นั่นแหละ
ก็ใครจะไปควบคุมตรวจตราห้างร้านแผงตลาดได้ทุกแห่ง...ได้ทุกวัน
ดีนะที่คนไทยลืมง่าย... โวยวายสักพัก แล้วก็ปล่อยเลยตามเลยด้วยความจำยอม
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็เลยรอดตัวไปทุกครั้ง ทุกครา
คงฝากความหวังไว้ไม่ได้มาก ตามที่คุยรับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะไว้ในช่วงการเลือกตั้ง
ยิ่งตัวเงินบาทแล้วด้วย ยิ่งจะหวังอะไรไม่ได้นาน
วันนี้ดูมั่นคง พรุ่งนี้ก็ไม่แน่เสียแล้ว
วันนี้มีอยู่ในมือ พรุ่งนี้ก็อันตรธานหายไปหมดเกลี้ยง
ตั้งใจจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเงินก้อนนี้ แต่แล้วต้องมีอันเป็นไป
ฝากอะไรไม่ได้สักอย่าง
คงเพราะเหตุนี้เอง ในธนบัตรเหรียญสหรัฐ เคยมีการพิมพ์ข้อความเตือนใจไว้
“In God we trust”…เราไว้ใจในพระเจ้า
คล้ายจะบอกเตือนคนที่ถือธนบัตรนั้นว่า เงินมีไว้ใช้สอย แต่จะฝากความไว้ใจกับมัน ไม่ได้เด็ดขาด
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง ใครที่เอาใจไปไว้กับเงินทอง จะต้องเสียใจตรอมใจ...กับมันครั้งแล้วครั้งเล่า
เงินทองจึงมีไว้เพื่อใช้จ่ายปลายมือ...รับมาจ่ายไปตามความจำเป็น
แต่อย่าเผลอปล่อยให้มันเข้าไปอยู่ในใจเป็นอันขาด
เงินทองตราบใดที่อยู่ที่ปลายมือเป็นแค่ “บ่าว” คอยรับใช้คน
แต่เมื่อใดที่เข้าไปอยู่ในใจแล้ว มันจะเปลี่ยนจาก “บ่าว” เป็น “นาย” เหนือคนทันทีทันใด
และทุกคนย่อมรู้แก่ใจดีว่า เมื่อเงินเป็น “นาย” แล้วมันโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดไหน
หลวงพ่อคูณจึงบอกว่า “กูปฏิบัติกับเงินอย่างไร้เมตตา มีเท่าไรใช้มันให้หมด...”
และเงินก็เข้ามาและผ่านท่านไปเป็นล้านๆ โดยที่ท่านไม่เคยแตะต้องมันด้วยซ้ำ
เงินบาทลอยตัวครั้งนี้ นอกจากจะต้องคิดหนักหลายเรื่องแล้ว
คงต้องมาคิดด้วยกันว่า
จริงๆ แล้ว ชีวิตคนเรามีที่ยึดเหนี่ยวที่หนักแน่นมั่นคงมากกว่าข้าวของเงินทอง
อุตส่าห์ทุ่มเทชีวิตเลือดเนื้อ แรงกายแรงใจให้กับมันอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ยังพึ่งพามันไม่ได้ตลอดไป
คงต้องเจียดการทุ่มเทมาให้กับคุณค่าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราให้มากขึ้นเสียแล้ว
เพราะหากมัวแต่ทุ่มเทให้สิ่งไม่เที่ยงแท้ จนลืมคุณค่าที่เที่ยงแท้ถาวรไป.