Stimulating Thoughts|58

(ปากกา) คอแร้ง


ผมว่าจะเขียนเรื่องอยู่แล้วทีเดียว ก็พอดีหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ของวันที่ 20 สิงหาคม 2539 ตีพิมพ์ข่าวว่า

ศูนย์บริโภคสื่อมวลชนได้มีจดหมายร้องเรียนสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทยให้ตักเตือนหนังสือพิมพ์รายวันสี่ฉบับที่มีการเขียนข่าวอาชญากรรมละเอียดยิบจนเห็นภาพพจน์

พร้อมกันนี้ก็มีสหพันธ์นักศึกษาแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อนหญิง และกลุ่มอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาฯ รังสิต และเกริก ร่วมเรียกร้องในจดหมายดังกล่าวด้วย...”

จากการสอบปากคำเด็กชายวัย 13 ปี ที่ก่อคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เด็กให้การว่าที่ทำลงไปเพราะดูวิดีโอลามก และอ่านรายละเอียดของข่าวคดีอื่นที่มีการบรรยายไว้อย่างละเอียดในหน้าหนังสือพิมพ์!

นี่คือสิ่งที่ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาโดยตลอด ในฐานะคนขีดๆ เขียนๆ คนหนึ่งหนังสือพิมพ์รายวันบ้านเมืองเราขาดจรรยาบรรณตั้งแต่ระดับบนลงมาระดับผู้สื่อข่าว

เพราะให้ความสนใจข่าวร้าย ข่าวเลว ข่าวชั่วกันเสียเหลือเกิน

ราวกับว่าทำมาหากินอยู่กับความวิบัติและความโชคร้ายของคน กับความชั่วความเลวทราม

พอมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นทีเป็นจ้องจับมาเป็นจุดขาย... ตีพิมพ์ 3 วัน 5 วัน 10 วัน ต่อเนื่องพร้อมกับรายละเอียดยิบอย่างกับอยู่ในเหตุการณ์

ตั้งแต่สภาพร่างกาย อวัยวะ รอยฟกซ้ำ บาดแผล รอยขีดข่วนไปจนกระทั่งสีของเสื้อผ้าทั้งชั้นนอกชั้นใน

แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อมีการสารภาพและทำแผน ก็จะมีรายละเอียดขั้นตอน วิธีการ ออกมาตีพิมพ์ระลอกหนึ่ง พร้อมภาพประกอบทุกแง่ทุกมุม

อ่านข่าวประเภทนี้แล้วแทบไม่ต้องใช้จินตนาการเลย เพราะปรุงแต่งมาให้พร้อมสรรพ

แถมมีสันดานดิบของคนเขียนข่าวเข้าไปช่วยเพิ่มรสชาติสีสันให้ด้วยแล้ว อ่านไปก็เห็นภาพเหมือนกำลังอยู่ในสถานที่นั้นๆเอง

อย่างนี้ไม่น่าจะเรียกว่าเสนอข่าวแล้วแต่น่าจะเป็นการบรรยายอาชญากรรมมากกว่า

วันดีคืนดีมีการตีพิมพ์ข่าวกวาดล้างสิ่งลามกอนาจาร เนื่องจากสิ่งเหล่านี้บ่อนทำลายศีลธรรมอันดีงาม และทำร้ายจิตใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน

แต่จะมีใครฉุกคิดบ้างไหมว่า การเขียนข่าวอาชญากรรมบางข่าวเช้าข่ายลามกอนาจาร มีประสิทธิภาพของการบ่อนทำลายไม่แพ้กัน หรืออาจจะร้ายแรงกว่าด้วยซ้ำ

สื่อลามกอนาจารแม้จะมีผู้นิยมบริโภค แต่ก็ไม่มากและค่อนข้างจำกัดประเภทบุคคล เพราะในตัวมันเองก็ก่อให้เกิดการต่อต้านในใจสำหรับผู้มีจิตใจสูงอยู่แล้ว

การแพร่หลายก็กระทำไปด้วยความยากลำบาก หลบๆ ซ่อนๆ แต่หนังสือพิมพ์รายวันนี่สิ ตกในมือของทุกคนและแพร่หลายกันได้อย่างกว้างขวาง

เอาไปเอามาเลยกลายเป็นสื่อลามกอนาจารถูกกฎหมายไปโดยปริยาย

นอกจากจะผิดศีลธรรมอันดีงามแล้ว การเขียนข่าวอาชญากรรมประเภทนี้ยังเป็นการผิดต่อสิทธิส่วนบุคคลด้วย

สิทธิในเกียรติและศักดิ์ศรี สิทธิในการปกป้องสิ่งพึงสงวน...

แม้ผู้ตกเป็นข่าวจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็พึงได้รับความเคารพในสิทธิ เกียรติ และศักดิ์ศรีเช่นกัน

ทว่าข่าวที่เขียนแต่ละข่าวเห็นได้ชัดว่า ผู้เขียนไม่คำนึงถึงเรื่องนี้เลย แม้แต่น้อยนิด กลับถือว่าผู้ตกเป็นข่าวกลายเป็นสมบัติสาธารณะที่จะเขียนประจานขายได้ทุกอย่าง แม้แต่เรื่องละเอียดอ่อนที่พึงสงวนปกปิด

อย่างนี้จะไม่เรียกว่าโชคร้ายซ้ำสองได้อีกหรือ

โชคร้ายเพราะตกเป็นข่าวหนึ่งโชคร้ายเพราะถูกประจานอย่างไม่เหลือหรอสอง

ส่วนตัวผมเลิกอ่านหนังสือพิมพ์รายวันประเภทนี้มานานแล้วจะเลือกอ่านก็หนังสือภาษาอังกฤษไม่ใช่เพราะเห่อภาษาต่างประเทศ แต่เพราะเบื่อที่จะต้องเจอกับนักข่าวที่ใช้ (ปากกา)คอแร้งเขียนข่าวขายอย่างไร้จรรยาบรรณ

ไม่ต่างกับนกแร้งที่จิก ทึ้ง กินซากศพเป็นอาหาร

ไม่ใช่ว่าหนังสือพิมพ์ที่ผมอ่านจะไม่มีการตีพิมพ์ข่าวอาชญากรรม แต่การเสนอข่าวมักจะกระทำไปด้วยใจเป็นกลาง ตรงไปตรงมา รัดกุม เคารพความรู้สึกของทั้งผู้อ่านและผู้ตกเป็นข่าว

จริงๆ แล้ว คนเราต้องการจะรู้ก็เพียงข่าวคราวของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมเท่านั้น

ส่วนที่ต้องการจะรู้รายละเอียดทุกแง่ทุกมุมของข่าวอาชญากรรม ก็คงจะเป็นประเภทจิตใจโอนเอนไปทางนี้อยู่แล้วหรือไม่ก็ประเภทซาดิสม์ มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมากกว่า

คุณชอบอ่านข่าวประเภทใด คุณก็ฟ้องตัวเองออกมาอย่างนั้น ผมว่า.