Stimulating Thoughts|34


เพื่อนรุ่นพี่ผมคนนี้แปลกกว่าทุกคนที่ผมเคยคบมา

เห็นหน้าครั้งแรก ให้รู้สึกกลัวเกรง ไม่คิดจะเสวนาด้วย

หน้าตาแววดุท่าทีเฉยเมยไม่ยินดียินร้ายกับใคร บวกกับรูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อ ใครพบเห็นคงอยากจะเลี่ยงไปให้ห่างไว้ก่อน

ความเป็นคนขี้อายไม่ชอบออกหน้าออกตา ทำให้หลายคนเห็นเป็นคนหยิ่ง

ต่อเมื่อรู้จักมักคุ้น ธาตุแท้ที่งดงาม เริ่มเปิดเผยออกมาทีละอย่างสองอย่าง

ภาพลักษณ์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นคนละคน

ใบหน้าที่เฉยเมย มีรอยยิ้มจริงใจที่เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะสนุกสนาน แม้เรื่องขบขันเพียงเล็กน้อย

ท่าทีดุดันเปลี่ยนเป็นกุลีกุจอต้อนรับขับสู้ เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ ดูแลทุกข์สุข ยิ่งกว่าเป็นญาติ

ท่าทางเอียงอายหายไม่มีให้เห็นวี่แววเมื่อเริ่มพูด คุยออกรสออกชาดได้ทุกเรื่อง ชนิดลืมวันลืมเวลาได้เลย

จนบางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่ากำลังพูดคุยกับคนเดียวกัน

บุคลิกและนิสัยใจคอต่างกันลิบลับในบุคคลคนเดียว


ทว่า ทุกคน จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว จะมากหรือน้อย ต่างก็มีลักษณะเช่นเดียวกันกับเพื่อนผมคนนี้

บางคนเมื่อแรกพบดูดี น่ารัก แต่พอคบกันนานเข้ากลับเป็นคนน่ารังเกียจ

บางคนเมื่อแรกพบดูน่ากลัว น่าเกรงขาม แต่พอคบกันจริงๆ เป็นคนน่ารัก เป็นกันเอง

บางคนเมื่อแรกเจอดูหยิ่ง แต่พอรู้จักกลายเป็นคนง่ายๆ

ในแต่ละคนจึงมีทั้งตัวจริงและตัวปลอมที่คนอื่นต้องใช้เวลาเพื่อค้นหาและแยกแยะออกมา

และคนที่รีบร้อน เร่งรัดตัดสิน มักจะไม่ค่อยพบกับตัวจริงของใครได้เลย

เพราะวันหนึ่งๆ เรามักจะเอาตัวปลอมของเราไปไหนมาไหน แล้วแต่สถานการณ์พาไป

ถ้าอยากให้เป็นที่ดึงดูดใจ ชื่นชอบ รักใคร่ ก็จะทำท่าทีน่ารัก หน้าตายิ้มแย้ม แววตามีเสน่ห์

ถ้าไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งย่าม ก็จะตีหน้าดุ แกมหยิ่ง ท่าทีเฉยเมย

ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าหวาดกลัว ก็จะทำท่าเข้มแข็งไว้เชิง

ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าอายเขิน ก็จะทำทีกล้าพูดกล้าแสดงออกจนเกินพอ

มันเป็นกลไกแห่งการป้องกันตัวอย่างหนึ่งที่คนเรามักใช้กัน

ใช้กันมากจนบ่อยครั้งลืมตัว นึกว่าตัวปลอมเป็นตัวจริง และตัวจริงเป็นตัวปลอม

แล้วก็แสดงออกมาอย่างนั้น สร้างความฉงนให้แก่คนรอบข้างและแก่ตัวเอง

คนเรารู้จักกันดี ต่อเมื่อมีความเป็นมิตร

ความสนิทสนม ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความผูกพัน การยอมรับกัน...เป็นบรรยากาศที่เอื้อให้ตัวจริงของแต่ละคนแสดงออกมา

ยิ่งรักใคร่ ชอบพอกันมากเท่าไร ความรู้สึกต้องคอยปกป้องตัวเองก็ยิ่งน้อยลง

ตัวจริงก็เด่นชัดออกมาได้ อย่างที่เป็น

ในสังคมที่มีความเป็นมิตรน้อยลง อย่างในสังคมเราทุกวันนี้ การจะรู้จักตัวจริงของกันและกันย่อมจะน้อยลงไปเรื่อย

ตัวปลอมจึงมีให้เห็นกันเกลื่อนกลาด ตั้งแต่เริ่มออกจากบ้านจนกระทั่งกลับเข้าบ้าน

ในเมื่อตัวจริงมองกันยาก เลยหันมามองแค่สิ่งภายนอก...หน้าตา รูปร่าง เสื้อผ้า เครื่องประดับ...

แล้วก็เดาเอาว่า คบได้หรือไม่ได้ ไว้ใจได้หรือไม่ได้

พร้อมกับทำใจลึกๆ ว่า อาจจะมีการพลิกล๊อกได้ทุกเวลา

คบกับไปต้องคอยระแวงกันไป คุมเชิงกันไป จับตาอย่าได้เผลอ

จำนวนคนที่รู้จักตัวจริงกันก็ลดน้อยถอยลง

ไม่ต้องแปลกใจ ชีวิตคนเราทุกวันนี้มีความเครียดสูง

ไหนจะต้องเครียดกับค่าครองชีพ ปัญหาการงาน ปัญหาการเล่าเรียน ฯลฯ แล้ว ยังต้องมาคอยระแวงแจกับบุคคลรอบข้างอีก

จนที่สุดต้องคบหากันเฉพาะไม่กี่คนในครอบครัว วันหนึ่งๆ ก็คลุกคลีกันอยู่แค่นั้น

จนกว่าจะช่วยกันเอาตัวจริงออกมารู้จักกันให้มากกว่านี้.