Way of Spirit|3 page 5 part 1

ภาค 1

งานอภิบาลที่ท้าทายต่อครอบครัวในเอเซีย



1. ประเพณีและคุณค่าของครอบครัว


6.ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกว้างขวางขนานใหญ่ในโลกชาวเอเซียยังคงให้คุณค่าการแต่งงานว่าเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ เด็กๆ ถูกทนุถนอมเหมือนเป็นของมีค่าและของขวัญของพระเจ้า บิดามารดาเต็มใจที่จะยอมเสียสละทุกอย่างเพราะความรักต่อบุตรหลานของตน ทั้งการจัดหาให้ด้านสุขภาพอนามัย ด้านการศึกษาและมีความเป็นอยู่ที่ดีครอบครัวเดี่ยวยังคงผูกพันกันอย่างใกล้ชิด ครอบครัวขยายก็ยังมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดนี้ด้วย สมาชิกผู้อาวุโสของครอบครัวที่เกษียณแล้ว พ่อแม่และปู่ย่าตายายยังคงได้รับความเคารพนับถือและเอาใจใส่อย่างมากภายในครอบครัว แม้ว่าจะต้องลำบากและเสียสละอย่างมาก ยังมีคนรักเขา ให้เกียรติและ

มีคนฟังเขาพูด ผู้อาวุโสเหล่านี้เป็นหลักที่ทำให้ครอบครัวมีความสามัคคีกัน ครอบครัวเอเชียเหล่านี้ไม่ว่าจะยากจนมากเพียงใด ก็ยังขึ้นชื่อในด้านการเป็นเจ้าของบ้านที่เอื้ออาทรกับแขก แม้ว่าจะมีความลำบากหนักหนาสาหัสทั้งภายในและภายนอก ครอบครัวเอเซีย ก็ยังมีความมั่นคงอยู่ในระดับสูง พวกเขาสามารถปรับตัวและพร้อมที่จะเสียสละเมื่อเผชิญหน้ากับความลำบาก ด้วยการเป็นผู้ที่มีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งและมีความสำนึกถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า พวกเขาเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก ครอบครัวเอเชียส่วนใหญ่ที่อยู่ในชนบทมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติกับสิ่งสร้างของพระเจ้าคุณค่าเหล่านี้เห็นได้จากคนพื้นเมืองผู้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นคนที่ยากจนที่สุดในเอเซีย เป็นผู้ที่ยังมิได้สัมผัสวัฒนธรรมเทคโนโลยี ยังมีคุณค่าอีกมากในเอเชียที่ยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีในครอบครัว และเป็นจุดที่ส่งประกายแห่งความหวังบนผืนดินแห่งเอเซีย คือประเพณีที่ส่งเสริมการปรับตัวของครอบครัวเอเชียในยามยากจนและการจัดการกับพลังแห่งความตายในรูปแบบต่างๆ ในโลกปัจจุบันคุณค่าด้านบวกตามประเพณีของครอบครัวเอเชีย เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ของพระวาจาของพระเจ้า ที่ช่วยเป็นเหมือนหินที่เป็นฐานที่เราสร้างบ้านเอเซียของเรา ดังเช่นนิทานเปรียบเทียบของพระเยซูเจ้าเรื่องคนฉลาด ( ดู มธ.7.24-25 ลก.6.47-48 ) ดังนั้น จำเป็นที่ครอบครัวจะต้องตระหนักว่าต้อฝึกฝน

และพัฒนาคุณค่าด้านบวกเหล่านี้ เพื่อให้คุณค่าอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มพูนขึ้น


7.ยังมีคุณค่าบางประการที่มีสองนัย เช่น ระบบเครือญาติอันแข็งแกร่งและการยึดครอบครัวเป็นศูนย์กลาง สิ่งเหล่านี้มีผลด้านลบด้วย การฉ้อราษฎร์บังหลวง การติดสินบน ลัทธิเกื้อหนุนญาติมิตร การเมืองและเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมในเอเซีย มักจะเกี่ยวข้องกับการเอาใจใส่ครอบครัวมากจนเกินควรรวมทั้งการใช้อำนาจและการทำงานด้วยความเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว ญาติพี่น้องและพวกพ้อง ทำให้ต้องเสียผลประโยชน์ส่วนรวม สิ่งนี้อาจนำไปสู่การเล่นพรรคเล่นพวกอย่างหนัก ซึ่งเป็นการแบ่งแยกมากกว่าการจะรวมชุมชนหรือสังคมนั้นๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตาม ในทุกวันนี้ ก็เป็นเรื่องจริงที่รู้กันอยู่ แม้คุณค่าบางอย่างจะเก่าแก่ แต่สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้หลายครอบครัวในเอเซียไม่มั่นคงพอที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้กำลังเปลี่ยนรูปศีลธรรมและความเชื่อทางศาสนา ความคิดความเข้าใจตนเองของแต่ละบุคคลและครอบครัว มันเปลี่ยนแม้แต่โครงสร้างของการแต่งงานและครอบครัวด้วย


8.ขณะที่เราจำเป็นต้องตระหนักถึงสถานการณ์ของวัฒนธรรมต่างๆ ในเอเซีย เราอาจสำนึกถึงเรื่องที่ทำกันทั่วไปในสถานการณ์ของครอบครัวเอเซียเป็นที่ยอมรับกันว่ามีความแตกต่างกันอย่างมากและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่ยากลำบากของครอบครัวในสาธารณรัฐโซเวียตในสมัยที่ผ่านมา คาทอลิกที่เป็นชนกลุ่มน้อยดูเหมือนจะถูกกลืนหายไป เพราะการไม่มีอิสระภาพในการนับถือศาสนาเป็นเวลาหลายปี ความเชื่อในเรื่องการแต่งงานและครอบครัวจึงค่อนข้างแตกต่างจากบรรทัดฐานของคริสตชน








2. รูปแบบต่างๆ ของครอบครัว


9.ปัจจุบันสถานการณ์ทั่วไปในครอบครัวเอเซีย แตกต่างจากที่ชาวเอเชียเคยถือว่าเป็นประเพณีหรือครอบครัวตัวอย่าง มีครอบครัวที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันและความเชื่อแตกต่างกันซึ่งเป็นผลมาจากการแต่งงานกับคนต่างศาสนาที่มีมากมาย ในการแต่งงานแบบนี้ คู่สมรสจะพบว่าการปรับตัวให้เข้ากันยากมากกว่าการมีความเชื่อเดียวกันมีทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนครอบครัวที่มีบิดามารดาฝ่ายเดียว ครอบครัวที่บิดามารดามิได้อยู่ด้วยกันและกรณีการแต่งงานใหม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย บิดามารดาบางคู่แยกกันอยู่อย่างถาวร ขณะที่บางคู่แยกกันอยู่ชั่วคราวเพราะต้องทำงาน การที่เด็กต้องอยู่กับปู่ย่าตายายหรือการที่บิดามารดาหย่าร้างกันเป็นเรื่องที่พบได้ไม่ยากมีครอบครัวจำนวนมากที่บิดาฝ่ายเดียวหรือมารดา ฝ่ายเดียวอยู่กับเด็กๆ มีครอบครัวไม่น้อยที่บิดามารดามาพบเด็กปีละครั้งหรือสองครั้ง และยังมีครอบครัวอีกมากที่เด็กไม่มีพ่อหรือแม่เดียวกัน ยังมีครอบครัวจำนวนมากที่บิดามารดามิได้แต่งงานกันและไม่อาจให้ความมั่นคงกับเด็กๆ และยังมีบ้านที่บิดามารดาไม่ปรารถนาที่จะมีบุตรหรือเลื่อนการมีบุตรออกไป เราเห็นครอบครัวเอเซียแบบดั้งเดิมที่มีความผูกพันใกล้ชิด รูปแบบครอบครัวขยาย

ของบิดามารดา ของบรรดาบุตร ครอบครัวของปู่ย่าตายาย มีทั้งลูกเขยหรือลูกสะใภ้และหลานๆ น้อยลงทุกที ครอบครัวเดี่ยวก็มีแนวโน้มที่จะสื่อสารกับสมาชิกของครอบครัวขยาย

น้อยลง ยิ่งกว่านั้นภายในครอบครัวขยายก็มีความขัดแย้งกัน เช่น ระหว่างบรรดาเขยหรือสะใภ้ที่ต้องการกระบวนการที่จะช่วยขจัดความขัดแย้งให้หมดไป รวมทั้งต้องการการเยียวยารักษาด้วยอำนาจของการให้อภัย


10.ด้วยความก้าวหน้าของขบวนการปลดปล่อยแบบใหม่ และการเติบโตของลัทธิเสรีนิยมแบบใหม่และความคิดหลังสมัยใหม่ รูปแบบอื่นๆของครอบครัว กำลังเริ่มต้นอย่างช้าๆ ทำให้ประเทศต่างๆ ในเอเซียมีกระแสทางโลกแบบเสรีนิยม แม้ว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับกันอย่างมาก เช่นการที่ทั้งคู่ในครอบครัวมีเพศเดียวกัน บางรูปแบบของครอบครัวเหล่านี้ ทำให้เกิดความยุ่งเหยิงอย่างมาก มันท้าทายประเพณีและความเข้าใจรูปแบบ ครอบครัวคริสตชนที่ว่า การแต่ง-งานเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชายและหญิง เป็นบรรทัดฐานเช่นเดียวกันก็เป็นการเริ่มต้นใหม่ของครอบครัว เราอาจตั้งคำถามว่า คู่สมรสเชื่อหรือไม่ว่าการแต่งงานเป็นพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นแค่เพียงการทำสัญญาตามกฎหมาย อาจจะยกคำถามด้านศีลธรรมขึ้นมาถามเกี่ยวกับเรื่องที่ปฏิบัติกันทั่วๆ ไปที่มีการแต่งงานกันตามกฎหมายก่อนและต่อมาจึงจะแต่งงานกันในวัด ในบางสังคม อาจจะเนื่องจากการที่ครอบครัวมีทุนทรัพย์ไม่พอ หรือเนื่องจากกฎหมายเครือญาติหรือขนบธรรมเนียมประเพณีนิยม

11.จะพิจารณาสถานการณ์ที่แตกต่างกันของครอบ-ครัวเหล่านี้ได้อย่างไรในด้านความเชื่อ จะช่วยคู่สมรสและครอบครัวให้ไตร่ตรองถึงสถานการณ์เหล่านี้ในด้านที่มีข้อผูกมัดต่ออาณาจักรของพระเจ้าได้อย่างไร จะช่วยครอบครัวเหล่านี้ให้มีส่วนร่วมได้อย่างไร และโดยทั่วๆไปจะให้คำแนะนำด้านการอภิบาลอย่างไร เรื่องเหล่านี้เป็นการท้าทายที่สำคัญยิ่งต่อทุกๆเขตวัดในเอเซีย




3.ความยากจนของครอบครัวเอเซีย

และเศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์


12.เรื่องหลักประการแรกที่ท้าทายครอบครัวเอเชียส่วนใหญ่ก็คือความยากจนความยากจนเป็นความจริงที่น่าเศร้าที่เขาต้องต่อสู้อยู่ทุกวันและไม่อาจจะหลุดพ้นไปได้ คนหนุ่มสาวที่ยากจนจำนวนมากไม่อาจคิดถึงเรื่องการแต่งงานและการก่อตั้งครอบครัวเพราะเขาปัจจัยพื้นฐานที่จะสนับสนุนและค้ำจุนการยังชีพ แต่ปัจจุบันนี้ความยากจนของเอเซียมีมิติใหม่ ป็นขบวนการของเศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์เสรีนิยมแบบใหม่ที่จัดระเบียบโลกใหม่โดยให้ทุกๆ ประเทศต้องร่วมมือกัน มิฉะนั้น จะต้องถูกทิ้งอยู่เบื้องหลังบนถนนแห่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ตามที่นิยามโดยประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่น่าสงสัยว่าโลกาภิวัตน์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงหรือ รายงานประจำปีด้านการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติได้ให้ข้อสังเกตสม่ำเสมอว่า เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ได้ทำให้สภาพการณ์ของคนจนและประเทศที่ยากจนตกต่ำมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพของคนจนในประเทศที่ยากจน ผลกระทบของโลกาภิวัฒน์ต่อความยากจนอาจจะกล่าวถึงได้ อย่างน้อยใน

3 ด้านดังต่อไปนี้


) 13.ความยากจนของครอบครัวในชนบท ผลผลิตจากไร่ของครอบครัวเกษตรกรเป็นที่ต้องการน้อยลงทุกที ขณะที่มีเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมและการขจัดกฎเกณฑ์ต่างๆให้หมดไป ความต้องการเศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์สองประการที่ไปด้วยกัน คือการอนุญาตให้มีการนำเข้าผลผลิตจากฟาร์มได้โดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้ขายได้ในราคาต่ำกว่าผลิตผลจากท้องถิ่น ไม่อาจจะแข่งขันกับใครได้ ถูกตัดสิทธิ์จากความคุ้มครองของรัฐบาลหรือจากเครือข่ายที่ปลอดภัยที่จะช่วยผลผลิตจากฟาร์มในการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ครอบครัวในชนบทได้รับประสบการณ์ความยากจนด้านเศรษฐกิจแบบใหม่ที่มีสาเหตุมาจากปัจจัยอันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา ด้วย

วิธีการที่คล้ายคลึงกันนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ของเอเซียทำการเกษตรขนาดเล็ก จึงไม่อาจจะแข่งขันกับธุรกิจใหญ่ๆ ที่ลงทุนทำการเกษตรร่วมกันขณะที่เทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรม

หรือ GMO กำลังเพิ่มขึ้นและแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง ทำให้เกษตรกรเอเชียรายย่อยจำนวนมากต้องพึ่งบรรษัทและเทคโนโลยีที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจและฐานะการเงินที่จะอำนวย ยิ่งกว่านั้น ยังมีปัญหาควบคู่ไปกับเรื่องการเป็นเจ้าของที่ดิน ครอบครัวในชนบทเหล่านี้พบว่า ที่ดินของเขามิได้ให้ผลผลิตในกรณีของเงื่อนไขที่เกิดขึ้นนี้จึงทำให้สถานการณ์เลวลงด้วยการอพยพไปอยู่ในเมือง สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชุมชนในชนบทเงียบเหงา สิ่งที่น่าจดจำก็คือข้อสังเกตที่ว่าปัญหาของครอบครัวชาวญี่ปุ่นในชนบทได้ประสบที่มิใช่ความยากจนด้านเศรษฐกิจแต่เป็นการพังทลายของหมู่บ้านเกษตรกรเอง ในที่สุดในสถานการณ์ด้านความยากจนหลายๆ ครอบครัวจำเป็นต้องทำเรื่องที่รุนแรงที่สุดด้วยการขายอวัยวะในร่างกาย เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ได้


) 14.ความยากจนของครอบครัวในเมือง ในเอเซีย ปรากฏการณ์ของการอพยพเข้าไปอยู่ในเมืองมิใช่เรื่องใหม่ แต่เมื่อสองสามทศวรรษที่แล้ว การอพยพย้ายถิ่นของคนจนในชนบทเข้าเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็วและเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่าในอดีต โลกาภิวัฒน์มิใช่เป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้ประเทศที่ยากจน ไม่สามารถที่จะแข่งขันในด้านการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเพิ่มการอพยพของคนจนจากชนบทเพื่อไปหางานที่หายากอยู่แล้ว เพราะระดับของการพัฒนาทางเศรษฐกิจในประเทศเอเซีย

ส่วนใหญ่การเติบโตและการขยายตัวของสลัมในเมืองเป็นข้อพิสูจน์ถึงการอพยพเข้าเมืองอย่างรวดเร็วนี้ ฐานะความยากจนของคนจนในเมืองยิ่งย่ำแย่กว่าในด้านที่อยู่อาศัย สถานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ขาดที่ว่างภายในครอบครัว การไม่มีความเป็นส่วนตัว ขาดน้ำดื่มที่ปลอดภัย ทั้งด้านสุขาภิบาลและสุขอนามัย เนื่องจากว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในสลัมไม่ว่าจะอยู่บนที่ดินที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ หรืออยู่บนที่ดินที่เอกชนเป็นเจ้าของ เขาก็อยู่ในความเสี่ยงของการถูกไล่ที่ทำให้ไม่มีบ้านอยู่สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความหมดหวังจนต้องทำอาชญากรรมทำให้เกิดปัญหาในการ

ใช้ครอบครัวในทางที่ผิดและทำให้ครอบครัวแตกแยก


) 15.ปรากฎการณ์ของการอพยพย้ายถิ่น ในเอเซียด้านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของครอบครัวเอเซีย ชาวเอเซียหลายล้านคนละทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลังเพื่อจะไปหางานทำงาน

ที่บ่อยครั้งไม่ตรงกับความรู้และความชำนาญที่มี ในสังคมเอเซีย ที่เศรษฐกิจพัฒนามากกว่า เช่น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซียและประเทศไทยเช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันเป็นประเทศจุดหมายที่นิยมกันไปทำงาน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่แรงงานอพยพ เหล่านี้ มักจะทำงานในสถานการณ์ที่ถูกเหยียดหยามและถูก เอารัดเอาเปรียบ ทวีปเอเชียเป็นแหล่งใหญ่ของการส่งออก แรงงานราคาถูก เป็นเรื่องจริงที่ว่าเงินเดือนที่พวกเขาได้รับจากต่างประเทศ มีจำนวนมากกว่าที่เขาจะหาได้ในประเทศของตนเอง แต่พวกเขาก็จะต้องจ่ายทดแทนด้วยเรื่องของความมั่นคงของครอบครัว การให้การศึกษาอบรมที่เหมาะสมและการ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ของลูกหลาน ที่ถูกตัดสิทธิ์ของการได้อยู่ด้วยกัน ขาดการแนะนำทาง ขาดความรักของบิดามารดาทั้งคู่ในวัยที่เด็กกำลังจดจำและต้องการการอบรมมากที่สุด


16.ยิ่งกว่านั้น คนพื้นเมืองที่ย้ายถิ่นเพื่อทำงานได้พบกับวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างมากกว่าประชากรกลุ่มอื่น เขาเสียคุณค่าด้านบวกส่วนใหญ่ที่ได้รับมาจากกลุ่มชนเดิมเขาจะพบความลำบากมากเมื่อต้องกลับมาที่เดิมอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน ดังนั้น เราจะเห็นความเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิดระหว่างการจัดอันดับ 2 ข้อแรกของการประชุมสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเซีย ครั้งที่ 7 กล่าวคือเรื่องแรงงานอพยพและคนพื้นเมือง


17.สรุปก็คือ คนงานอพยพและครอบครัวของเขาต้องการ การอภิบาลอย่างเร่งด่วนทั้งจากพระศาสนจักรขอประเทศผู้ส่งและผู้รับ อันที่จริงการอภิบาลเพื่อคนงานอพยพเหล่านี้ คือ 1 ใน 5 ของการจัดลำดับงานอภิบาลของพระศาสนจักรในเอเซีย ข้อแนะนำจากเอกสาร Erga Migrantes Caritas Christi, ที่เพิ่งออกเมื่อเร็วๆนี้เปี่ยมไปด้วยความเอาใจใส่ ความเมตตาสงสาร ทั้งให้ข้อแนะนำและแนวทาง แสดงถึงความเอาใจใส่

เป็นอย่างมากในด้านการอภิบาลของพระศาสนจักร


18.เมื่อมองลึกลงไปในมิติต่างๆ ด้านความยากจนของเอเซียก็จะพบปรากฏการณ์ใหม่ ตามที่รายงานการพัฒนาการเรียกว่า "ความยากจนของสตรี" การตระหนักรู้นี้เกิดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพศหญิงเป็นผู้รับแบกภาระส่วนใหญ่ของความยากจน เกือบทุกกรณีสามีเป็นผู้จัดหาสิ่งจำเป็นเพื่อให้ครอบ-ครัวได้อยู่รอด แต่เป็นภรรยาที่ต้องจัดการให้รายรับพอกับรายจ่าย ในขณะที่เธอต้องเลี้ยงดูและจัดหาเสื้อผ้าให้กับลูกๆ หุงหาอาหารให้ เอาใจใส่ดูแลเมื่อเกิดการเจ็บป่วย เอาใจใส่สมาชิกอาวุโสของครอบครัวขยายดูคล้ายกับว่าไม่มีการจัดตารางเวลาสำหรับเธอเลย การดูแลบ้านช่องมิใช่งานที่เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 7.30 . ถึง 17.00. . มีเวลาพักกลางวันสองสามชั่วโมง เมื่อไรก็ตามที่ทำได้ลูกสาวจะต้องช่วยเมื่อสามารถช่วยได้ บ่อยครั้งทั้งแม่และลูกสาวมักจะต้องช่วยหารายได้จากการทำงานอื่นนอกบ้าน ทำให้เห็นชัดเจนว่าความยากจนมีผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย



4.การปราศจากที่ดินและการสูญเสีย

สิทธิครอบครองของบรรพบุรุษ


19.องค์รวมของสถานการณ์ความยากจนของครอบครัว เอเซียอยู่ในข้อเท็จจริงที่ว่า ครอบครัวไม่มีที่ดินเป็นของตนเองครอบครัวนับล้านในเอเซียมิได้เป็นเจ้าของหรือเพาะปลูกในที่ดินของตนเองที่ดินผืนใหญ่ที่คนส่วนน้อยเป็นเจ้า-ของแสดงให้เห็นถึงการขาดดุลยภาพอย่างใหญ่หลวงในการกระจายสินทรัพย์ของเอเซีย นี่เป็นเครื่องหมายอีกอย่างของความอยุติธรรมในสังคม ที่กันมิให้คนยากจนส่วนใหญ่มีโอกาสที่จะมีอนาคตที่ดีขึ้น การปฏิรูปที่ดินในประเทศแถบเอเซียหลายประเทศ ยังคงเป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ซึ่งความ ร่ำรวยควบคุมอำนาจทางการเมืองทำให้ไม่มีโอกาสในการแบ่งปันที่ดินให้เท่าเทียมกันตามกฎหมาย


20.แผ่นดินคือชีวิต ความจริงที่ไม่ต้องพิสูจน์ข้อนี้เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวคนพื้นเมือง ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลพวกเขาคิดว่าแผ่นดิน แม่น้ำ และป่าเขาเป็นของพวกเขาเองแม้ว่าจะไม่มีเอกสารการเป็นเจ้าของตามกฎหมายนำมาแสดง การหาประโยชน์จากความเข้าใจเรื่องการเป็นเจ้าของของคนพื้นเมืองทั้งในด้านกฎหมาย,การตัดไม้, การทำเหมืองแร่ เกษตรกรจากพื้นที่ราบรุกเข้าไปในที่ที่บรรพบุรุษของชนพื้นเมืองครอบครองอยู่ ทำให้ขอบเขต

ที่ดินของเขาลดน้อยลงปีแล้วปีเล่า บ่อยครั้งกลุ่มชนพื้นเมืองต้องย้ายถิ่นถอยไปไกลจนขึ้นไปอยู่บนภูเขาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง แน่นอนที่ว่าสิทธิของเขาที่จะมีที่ดินที่จะมีเศรษฐกิจของตนเองและมีการพัฒนาทางวัฒนธรรมของเขาถูกละเมิด ยิ่งกว่านั้นรูปแบบของเสรีนิยมแบบใหม่ของการพัฒนาที่ส่งเสริมโดยรัฐบาลเศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์พัฒนาโครงการต่างๆ ในที่ดินที่บรรพบุรุษของชนพื้นเมืองครองครองอยู่บางครั้งทำงานต่อต้านการพัฒนาที่จำเป็นของชนพื้นเมือง



5.วัฒนธรรมโลกาภิวัฒน์

และผลกระทบต่อครอบครัว


21.คุณค่าที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์ได้ปลุกให้วัฒนธรรมโลกาภิวัฒน์ตื่นขึ้นด้วย ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 กระแสทางโลกตะวันตกมีอิทธิพลต่อสังคมเอเซียเป็นอย่างมาก กระแสทางโลกนั้นใช้เวลาน้อยมาก ปัจจุ-บันด้วยการให้ความสำคัญกับปัจเจกนิยมและเสรีนิยมเปลี่ยนรูปแบบระบบคุณค่าของครอบครัวชาวเอเชียอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าในสองทศวรรษก่อนของศตวรรษที่ 20 สิ่งที่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้คือเศรษฐกิจ ดังที่เราได้เห็น แล้วและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการสื่อสารของโลกที่ทำให้โลกนี้เป็นหมู่บ้านโลก


22.การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี มีลักษณะด้านบวกหลายประการ มันนำเอเซียให้ตระหนักมากขึ้นถึงศักดิ์ศรีของ แต่ละบุคคล การปกครองตนเองและสิทธิมนุษยชนที่เป็นลักษณะทางตะวันตก มันสร้างและส่งเสริมให้เกิดความเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกันของโลกในทันทีในยามที่เกิดความหายนะร้ายแรง มันให้ความรู้กับโลกและมนุษย์มากขึ้นแบบก้าวกระโดด การแบ่งปันและการใช้ความรู้นั้นมีอยู่ทั่วไปและ ปรับปรุงชีวิตมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด


23.แต่กระบวนการทางวัฒนธรรมโลกาภิวัฒน์ก็มีด้านที่ทำให้ตกต่ำด้วยวัฒนธรรมทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังขุดรากถอนโคนครอบครัวจากวัฒนธรรมตามประเพณีเดิมและสร้างสังคมเมืองที่ไม่รู้จักกันผลของวัฒนธรรมเทคโนโลยี ประกอบกับเสรีนิยมแบบใหม่ กระแสทางโลก วัตถุนิยม การยึดถือตนเองเป็นใหญ่และบริโภคนิยมเป็นสิ่งที่ขัดกับวัฒนธรรมที่มีแนวโน้มด้านศาสนาของเอเซีย ความสัมพันธ์กัน ความเกี่ยวข้องกัน และวิถีชีวิตของคนเอเซีย ที่พึ่งพาอาศัยกันถูกทำลายลงด้วยคุณค่าของวัฒนธรรมเทคโนโลยีจำนวนมากสวนทางกับคุณค่าของครอบครัวเอเซีย การเติบโตทางด้านเทคโนโลยีปรับทัศนคติในเรื่องการแต่งงาน ความสัมพันธ์ใกล้ชิดในครอบครัวและความรักให้ลดน้อยลง คนจำนวนมากไม่เห็นว่าการแต่งงานเป็นข้อผูกมัดที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ดังนั้นการอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องแต่งงานมีจำนวนมากในสังคมเมืองที่ไม่มีใครรู้จักกัน ทำให้ประเพณีที่สังคมไม่ยอมรับนี้หายไป ปัจจุบันมีความพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดด้านการแต่งงานและครอบครัวตามประเพณีดั้งเดิม แม้กระทั่งคุณค่าของชีวิตด้วยการชี้นำไปในทางที่ผิดตามกระแสทางโลกหลังสมัยใหม่นี้เป็นเครื่องมือของการสื่อสารสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชนที่ได้จัดการอย่างฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยมในการครอบงำจิตวิญญาณจำนวนมากของชาว เอเซีย


24.เนื่องจากว่าครอบครัวเป็นทั้งที่รวมและช่องทางของวัฒนธรรมผลกระทบของวัฒนธรรมทางโลกที่เกิดขึ้นในครอบครัวเอเซียทำให้เกิดความไม่สงบเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับชนชั้นสูงของครอบครัวเอเซียที่เป็นพวกที่ได้รับวัฒนธรรมทางโลกนี้เป็นพวกแรก เพราะคนเหล่านี้มีเครื่องมือการสื่อสารสังคมใช้กันมาก แต่วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นนี้ยังลงไปจนถึงกลุ่มรากหญ้า เนื่องจากว่าโทรทัศน์ท้องถิ่นวิทยุและภาพยนตร์เลียนแบบรายการทางสื่อที่จัดให้โดยทางตะวันตก ทำให้คุณค่าลักษณะของชีวิตและครอบครัวกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับผู้ชมและผู้ฟังทีละน้อย เป็นเรื่องน่าขันที่เครื่องมือการสื่อสารสังคม เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องการใช้ให้เป็นเครื่องช่วยในการสื่อสารและช่วยให้ครอบครัวผูกพันใกล้ชิดกันมากขึ้นกลับกลายเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว ขณะที่สมาชิกใช้เวลาที่มีค่าในการอยู่ด้วยกันน้อยลง กิจวัตรที่ทำร่วมกันในครอบครัวการรับประทานอาหารและการพักผ่อนหย่อนใจร่วมกันมีน้อยลงไม่ต้องสงสัยเลยว่า อิทธิพลในด้านลบเหล่านี้มีส่วนทำให้การหย่าร้างเพิ่มขึ้น ครอบครัวแตกแยก และอัตราการทำอาชญากรรมของเยาวชน รวมทั้งการสูญสลายของระเบียบวินัยในครอบครัว

25.ยิ่งกว่านั้น วัฒนธรรมโลกาภิวัฒน์ยังก่อให้เกิดความยากจนแบบใหม่ เทคโนโลยีแบบใหม่และวิถีทางที่มันช่วยปรับปรุงการเรียนรู้และแม้แต่ด้านความเป็นอยู่อันทันสมัยที่เป็นเรื่องที่ไกลสุดเอื้อมของครอบครัวที่ยากจน ดังนั้นนอกจากจะมีความยากจนทางด้านวัตถุแล้วยังเกิดความยากจนแบบใหม่ขึ้น คือความยากจนในด้านความรู้และการที่จะเข้าถึงความรู้ด้านต่างๆ ยิ่งทำให้ครอบครัวที่ยากจนอยู่ชายขอบมากขึ้นทุกที สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ได้ทรงเรียก

ปรากฏการณ์ของความยากจนนี้ว่า "มิใช่เพียงแต่ไม่มีเท่านั้นแต่เป็นความยากจนของผู้ที่ไม่รู้ด้วยว่าไม่มี" ถ้าความมั่งคั่งของประเทศอุตสาหกรรมยิ่งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นเจ้าของ ของความรู้ว่าจะทำอย่างไร มีเทคโนโลยีและมีความชำนาญมากกว่าทรัพยากรธรรมชาติ ดังนี้ความยากจนของประเทศอื่นๆก็หมายถึงการขาดความมั่งคั่งแบบใหม่นี้เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งกว่านั้นเราจำเป็นต้องตระหนักว่า ความยากจนที่มากกว่าความ

ยากจนด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีก็คือความยากจนฝ่ายจิต ความยากจนด้านศีลธรรมรวมทั้งความเชื่อมั่นทางศาสนาและคุณค่าต่างๆ


26.มีข้อพึงสังเกตว่า ยังมีการตอบรับแบบหนึ่งจากบางส่วนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอันเกิดจากโลกาภิวัฒน์คือพวกอนุรักษ์นิยม การยอมรับแต่สิ่งดั้งเดิมนี้ดูเหมือนจะให้คำตอบที่ชัดเจน และความหมายที่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาชีวิต เช่นในเรื่องที่ซับซ้อนด้านความยุติธรรมและความรัก การแต่งงาน ครอบครัวความสัมพันธ์ที่มีความเชื่อต่างกัน การเมืองและการปกครองพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งยังก่อให้เกิดการไม่ยอมผ่อนปรนไปจนถึงลัทธิผู้ก่อการร้าย ทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในสังคมเอเซีย



6.การปกครองแบบพ่อกับลูก

ในครอบครัวและสังคมเอเซีย


27.ในเรื่องที่เกี่ยวกับบทบาทของหญิงและชายในครอบครัวเอเซียและในสังคมที่กว้างกว่าครอบครัว การปกครองแบบพ่อกับลูกยังคงเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะยังใช้เป็นปัจจัยที่กำหนด คำนี้มีรากศัพท์มาจากคำในภาษาลาตินคำว่า "บิดา" หรือ พ่อการปกครองแบบพ่อกับลูกได้กลายเป็นคำที่มีความหมายใน เชิงลบ แต่ในสมัยคริสตชนเดิมคำว่า "บิดา" นี้พระเยซูเจ้าได้ทรงใช้จากประสบการณ์ที่ได้รับจากพ่อ เป็นความสัมพันธ์ของพระองค์ในฐานะของลูกกับพระเจ้าด้วยความรัก และดังนั้นก็ไม่มีเรื่องของการครอบงำหรือการกดขี่ อันที่จริง ในสมัยนี้ จำเป็นมากที่จะต้องให้ความสำคัญของ "พ่อ" ในพระวรสาร กลับคืนมา ดังที่ปรากฏในนิทานเปรียบเทียบเรื่องลูกล้างผลาญของพระเยซูเจ้า แสดงให้เห็นถึงความใจกว้าง และความรักที่ให้อภัยของพ่อ หรือในบทภาวนาถึง "พระบิดาของเรา" ที่แสดง

ออกให้เห็นถึงการปกครองด้วยความรัก หรือการเป็นผู้นำในฐานะผู้รับใช้ที่พระเยซูเจ้าพระองค์เองทรงเป็นแบบอย่างให้กับบรรดาสาวกในการล้างเท้า โดยนัยนี้เราอาจมีความรัก ของบิดา หรืออำนาจของบิดา โดยไม่มีการเป็นบิดา ในทุกวันนี้เช่นเดียวกับในสังคมของชาวยิวและชาวกรีกโรมันตอนต้น การปกครองแบบพ่อกับลูกถูกเข้าใจด้วยความหมายด้านลบ ดังนั้นทัศนคติทางสังคมของการปกครองแบบพ่อลูก ยังคงฝังแน่นอยู่ในโครงสร้างของสังคมและเป็นพื้นฐานในการตัดสินความไม่เท่าเทียมกันทางเพศและบทบาทที่เหนือกว่าของฝ่ายชาย มองในระดับโลก จะเห็นว่าการปกครองแบบพ่อลูกฝังรากลึกลงในวัฒนธรรมและใต้จิตสำนึกทางศาสนาของเอเซียและอยู่เหนือการเมือง เศรษฐกิจความสัมพันธ์ของมนุษย์ ทรรศนะ และวิธีปฏิบัติในการเลี้ยงเด็ก มีรูปแบบตายตัวเกี่ยวกับการเป็นชายและหญิง การมีบทบาทในชุมชน ฯลฯ การปกครองแบบพ่อลูกให้คำนิยามผู้ชายด้วยคำว่า ความกล้าหาญ ความแข็งแรง ผู้มีอำนาจ และผู้ปกครอง นี่เป็นพื้นฐานของการรักเพศชายอย่างรุนแรงในสังคมและลัทธิการใช้อำนาจของผู้ชายในครอบครัว อีกด้านหนึ่งการปกครองแบบพ่อลูก นิยามผู้หญิงด้วยคำว่า ความอ่อนโยน การยอมจำนน และการเป็นรอง ถือว่าผู้หญิงเป็นมนุษย์ชั้นสองและสร้างมาตรฐานสองแบบเพื่อปกครองพฤติกรรมของผู้ชาย ผู้หญิง เด็กชายและเด็กหญิง ตัวอย่างเช่น จากพื้นฐานของการมองโลกแบบชายเป็นใหญ่ เห็นว่าความไม่ซื่อสัตย์ของสามีต่อภรรยาและพฤติกรรมการไม่รับผิดชอบของเขาต่อลูกๆ ว่าเป็นเรื่องที่น่าให้อภัย และยอมรับได้มากกว่าพฤติกรรมเหล่านั้นของภรรยา


28.ในบางประเทศการปกครองแบบพ่อลูกเผยให้เห็นลักษณะที่เลวร้ายในกระบวนการเลือกเพศในระหว่างการ ตั้งครรภ์ ในประเทศเหล่านั้น การชอบเด็กเพศชายมากกว่าก่อให้เกิดความไม่สมดุลอย่างใหญ่หลวงของอัตราส่วนด้านเพศ ในจำนวนประชากร วิทยาศาสตร์ได้กระทำการอันน่าสลดด้วยการช่วยกระบวนการอันเลวร้ายของการปกครองแบบพ่อลูก โดยการรู้เพศและเลือกเพศของทารกได้ก่อนคลอด ยังผลให้เกิดการทำแท้งตัวอ่อนเพศหญิงนับพัน



7.สตรีและเด็กหญิง


29.การรับรู้ถึงความเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีขั้นพื้นฐาน การได้รับความเสมอภาคในการศึกษาขั้นสูง การประสบความสำเร็จและการช่วยเลี้ยงดูครอบครัวได้ท้าทายประเพณีการให้อำนาจกับบทบาทของสามีในครอบครัวเอเชียแบบค่อยเป็น ค่อยไป อันที่จริงในปีที่เพิ่งผ่านมาบทบาทของผู้หญิงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ตามลำดับ สำหรับผู้หญิงจากส่วนที่ยากจนกว่าของสังคม การศึกษาวิชาชีพ มิได้เป็นทางเลือกตามความชอบมากนัก แต่เป็นผลของความกดดันด้านเศรษฐกิจที่ต้องออกไปหางานทำนอกบ้านเพื่อช่วยเหลือครอบครัวในการเอาใจใส่ดูแลลูก หรือเพื่อให้แน่ใจว่าจะช่วยครอบครัวให้อยู่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่สามีหรือลูกชายหาเงินไม่พอเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นบทบาทในบ้านหลายประการตาม

ประเพณีเดิมรวมทั้งการเลี้ยงเด็กที่เป็นบทบาทของแม่และ ลูกสาว ต้องส่งต่อไปยังผู้อื่น ที่ร้ายก็คือการเปลี่ยนแปลงบทบาทเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับการโอนบทบาทความรับผิดชอบในบ้านตามประเพณีให้กับบุคคลที่อยู่ในระดับเศรษฐกิจที่ต่ำกว่า เช่น ผู้ช่วยทำงานบ้านหรือญาติพี่น้องที่ยากจน นี่เป็นกรณีของ

มารดาที่ทำงานเต็มเวลาในโรงเรียน และในที่ทำการรัฐบาล การเปลี่ยนบทบาทความรับผิดชอบ ในบ้านของผู้หญิงนี้เห็นได้มากเป็นพิเศษในเมืองที่มีคนใช้ ช่วยเลี้ยงลูก คนรับใช้ที่ช่วยทำงานบ้านและแม้แต่ใช้ปู่ย่าตายายให้ดูแลลูกและบ้าน ขณะที่ภรรยาทำงานเต็มเวลาตามวิชาชีพที่ตนเลือกเช่น เป็นแพทย์ พยาบาล วิศวกร ครู ทนายความผู้จัดการธุรกิจ ฯลฯ


30.อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆไปสู่ความเสมอภาคและการเป็นหุ้นส่วนในความสัมพันธ์ของสามี - ภรรยา มิได้ป้องกันกรณีการทุบตีภรรยาและรูปแบบอื่นของการดูหมิ่นเหยียดหยามและกดขี่ผู้หญิงทั้งที่บ้านและที่ทำงาน บางประเทศในเอเซียมีประเพณีน่าเศร้าที่ยินยอมให้มีการกระทำ

ทารุณกรรมกับภรรยาและเด็กหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท ในประเทศเหล่านี้ นอกจากการกดขี่อย่างหนักทางประเพณีที่ผู้หญิงต้อง นำทรัพย์สินมาเป็นสินสมรสแล้ว ภรรยายังต้องรับแบกภาระหนักโดยต้องพยายามพิสูจน์ตนเองว่ามีคุณค่าเหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในปัจจุบันรวมทั้งครอบครัวขยายของสามีด้วย ขณะที่เด็กผู้ชายเป็นที่นิยมชมชอบ เด็กผู้หญิง ต้องทนต่อการเลือกปฏิบัติตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ เด็กผู้หญิง อาจจะกลายเป็นเหยื่อที่ถูกฆ่าในระหว่างที่ยังเป็นทารกอยู่ก็ได้ ในที่สุดแล้วในหลายส่วนของเอเซีย ผู้หญิงเป็นสินค้าที่ซื้อขายกันในการค้าทางเพศ ทั้งในระดับประเทศหรือต่างประเทศ สิ่งนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย และแม้แต่เด็กๆ ก็รวมอยู่ในปรากฏการณ์นี้ด้วย สิ่งที่ท้าทายงานด้านอภิบาลเหล่านี้ เรียกร้องให้มีการตอบรับด้านการอภิบาลอย่าง

เหมาะสม


31.เรายังจำได้ถึงพัฒนาการด้านบวกในหลากหลายรูปแบบของขบวนการปลดปล่อยผู้หญิงที่ได้เกิดขึ้นในเอเซีย ขบวนการเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของสาธารณชนถึงเรื่องความรุนแรงภายในครอบครัวการทำแท้งตัวอ่อนเพศหญิงและความจำเป็นที่จะต้องมีความเท่าเทียมในความสัมพันธ์

ระหว่างชายและหญิง สามีและภรรยา บุตรชายและบุตรสาว ในทุกประเทศของเอเซียเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแม่ที่ทำงาน เพื่อปลดเปลื้องภาระของสังคมด้วยการสนับสนุนของสังคมและการเมือง การร่วมมือกัน Grameen banking เทคโนโลยีที่เหมาะสม การอ่านออกเขียนได้และแผนงานด้านสุขภาพ ฯลฯ



8.เยาวชนในครอบครัว


32.การให้ข่าวสารทั้งด้านเทคโนโลยีและสื่อสารมวลชน อย่างมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นและความไม่ชัดเจนของวัฒนธรรมหลังสมัยปัจจุบันแทรกซึมเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลต่อเยาวชนซึ่งปกติมีโอกาสทางการศึกษามากกว่าผู้ที่อาวุโสกว่า เยาวชนเข้าไปในโลกแห่งการสื่อสารได้มากกว่าด้วย สิ่งนี้ เป็นทั้งคุณและโทษ เพราะโลกของการสื่อสารมีลักษณะที่คลุมเครือเยาวชนติดต่อสื่อสารกันและกันด้วยภาษาใหม่แห่งวัฒนธรรมเทคโนโลยี นี่คือสาเหตุที่เวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน ในครอบครัวเป็นเรื่องจำเป็นเป็นเวลาของตนที่จะค้นหาเอกลักษณ์ของตนเองเป็นครอบครัวที่ให้ความมั่นคง แต่เมื่อพวกเขาขาดการชี้นำจากบิดามารดา พวกเขาก็ซึมซับคุณค่าของวัฒนธรรมใหม่

ในเวลาที่ยังไม่อาจไตร่ตรองได้ ผลก็คือวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผู้อาวุโสและเยาวชน เยาวชนเองอาจจะต้องเผชิญกับประสบการณ์วิกฤตกาลของคุณค่า เขาถูกดึงระหว่างคุณค่าตามประเพณีที่ทางบ้าน เห็นว่าดีแม้จะมิใช่ด้านบวกเสมอไป กับคุณค่าทางโลกในการชุมนุมนอกบ้านซึ่งอาจมิใช่ด้านลบเสมอไป ขณะที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวตกต่ำลงก็มีทางออกด้วยการหนี บางครั้ง ด้วยการใช้ยาเสพติดซึ่งเหยื่อเข้าใจผิด โดยเชื่อว่าจะช่วยเขาให้ลืมความลำบากยากแค้นได้


33.ดังที่การประชุมสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเซีย ครั้งก่อนได้กล่าวถึงในหลายประเทศ เยาวชนเอเซียมักจะเป็นผู้นำในสังคมและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางศาสนา เยาวชนเป็นผู้นำการปลดปล่อยทางสังคมมากมายและเป็นผู้นำขบวน การทางกฎหมาย มีส่วนร่วมในขบวนการฟื้นฟูในพระศาสนจักร และเข้าเป็นผู้นำในแผนงานอภิบาของพระศาสนจักรและในงานชุมชนพระศาสนจักรพื้นฐาน มีการระบุเรื่องเยาวชนของเอเชียว่าเป็นเรื่องสำคัญ 1 ใน 5 ของการจัดลำดับงานอภิบาล เป็นการเสริมพลังความหวังของเยาวชนและในเยาวชน เอเซีย เป็นทวีปของเยาวชน เยาวชนจึงมิใช่เป็นเพียงอนาคตของพระศาสนจักรในเอเซียเท่านั้นแต่เป็นปัจจุบันด้วย


9.แรงงานเด็ก


34.ปรากฎการณ์อีกอย่างหนึ่งที่มีผลกระทบต่อครอบครัว เอเซียคือการใช้แรงงานเด็กซึ่งทำกันอยู่ทั่วไปด้วยสาเหตุอันเกิดจากความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม เด็กจำนวนนับล้านถูกใช้แรงงาน ปรากฎการณ์นี้อาจเกิดจากมุมมองด้านวัฒนธรรมที่บิดามารดาเห็นว่าเด็กเป็นสมบัติที่ ต้องใช้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว ดังนั้นบิดามารดาเองก็ให้อนุญาตหรือแม้กระทั่งสนับสนุนให้เด็กๆ ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ตามถนน ในโรงงานและตามร้านค้าเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ช่วยให้มีอาหารมากขึ้น และช่วยในด้านการศึกษาของตนเอง แต่ผลลัพท์ที่เกิดจากการใช้แรงงานเด็ก คือเด็กขาดพัฒนาการและการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์การอ่านออกเขียนไม่ได้มีอัตราสูง การขาดสารอาหาร ปรากฎการณ์ของการทอดทิ้งเด็ก หรือเด็กข้างถนนที่ขาดบิดามารดาและบ้าน และเด็กที่ทำอาชญากรรมรวมทั้งเด็กเกเรมีอัตรา ส่วนสูง




10.นิเวศวิทยา


35.สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมลงในเอเซียมีผลกระทบต่อครอบ-ครัวเอเชียในด้านลบด้วย ความสมดุลด้านนิเวศวิทยาระยะยาวต้องยอมสละเพื่อผลกำไรทางเศรษฐกิจระยะสั้นในระบบ และบางครั้งไม่มีการควบคุมการทำลายป่าและแหล่งน้ำ ฝนแล้งและน้ำท่วมมักจะเป็นผลของการตัดไม้ทำลายป่าทำให้คุณภาพของดินเปลี่ยนไป ประสิทธิผลทางการเกษตรของครอบครัวในชนบทลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในพื้นที่ในเขตเมืองอันกว้างขวางของเอเซีย เกิดรูปแบบใหม่ของสิ่งแวดล้อมที่เลวลง มลภาวะเป็นพิษและการจัดการกับขยะอย่างไม่มีประสิทธิภาพเป็นปัญหาหลักและเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วยมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านระบบการหายใจ ทำให้คุณภาพของ ชีวิตของครอบครัวคนจนในเมืองตกต่ำลงไปอีก



11.แผนจำนวนประชากร


36. ยิ่งกว่านั้น การวางแผนจำนวนประชากรของรัฐบาลเล็งเป้าไปยังครอบครัวยากจนเป็นพิเศษ จุดประสงค์ที่เหนือ สิ่งใดทั้งหมดที่ประกาศเป็นประจำก็คือเพื่อสุขภาพอันดีของประชากรและการลดจำนวนประชากรเพื่อให้พอดีกับผลผลิตอาหารที่ลดลง วิทยานิพนธ์เรื่อง The Malthusian doomsday ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลใช้เป็นแนวคิด แม้ว่าจะมีหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผลให้ทางเลือกอื่นจากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งเห็นว่า พื้นฐานของวิทยานิพนธ์นี้ คือเทพนิยายที่ประชากรและแนวทางการผลิตอาหารไม่ยอมรับเลยตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา


37.การประชุมด้านการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วในเรื่องประชากรของประเทศยากจน ดูเหมือน ไม่ค่อยเป็นที่ทราบกันนัก แต่ปรากฏชัดเจนว่าความช่วยเหลือจากต่างประเทศสำหรับการพัฒนาต้องการให้ประเทศที่กำลังพัฒนาออกกฎหมายลดจำนวนประชากร เกณฑ์การวัดเหล่านี้เน้นการคุมกำเนิดที่ผิดธรรมชาติ และสนับสนุนการทำแท้งให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างน้อยในหลายกรณีบนพื้นฐานของกระแสทางโลกและความคิดเสรีนิยมแบบใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ เห็นได้ชัดว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้ส่งเสริม "วัฒนธรรมแห่งความตาย" ความคิดเรื่องการคุมกำเนิดและการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานที่เกิดขึ้นกับบรรดาเยาวชนและกระแสวัฒนธรรมทางโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลายเกี่ยว เนื่องกันไปทั่วโลก


38.ยิ่งกว่านั้น ในการประชุมควบคุมจำนวนประชากรมีความเชื่อว่าการอพยพย้ายถิ่นของชาวเอเซียไปยังประเทศอื่นเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเป็นการคุกคามทางเศรษฐกิจและความปลอดภัย อีกแง่หนึ่งนักสังเกตการณ์ชาวเอเซียหลายท่านเชื่อกันว่าในการเล็งเป้าแผนการลดจำนวนประชากรของรัฐบาลไปยังคนจนนั้น รัฐได้เลี่ยงปัญหาที่ยากกว่าในการทำงานด้านสังคมและการปฏิรูปโครงสร้างไปสู่การลดจำนวนความยากจน ที่ต้องกาให้มีการแจกจ่ายทรัพยากรอย่างยุติธรรม และเข้าถึงผลของการพัฒนาได้เท่าเทียมกันมากขึ้น เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้ว คือสถานการณ์ของประเทศเกาหลีใต้ และประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราการเกิดที่ต่ำลงมากและจำนวนประชากรอาวุโสเพิ่มขึ้น กำลังทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในการลดลงของจำนวนแรงงาน และทำให้การบริการด้านเงินเลี้ยงชีพของรัฐลดลงในปัจจุบัประเทศเหล่านี้กำลังพยายามเพิ่มจำนวนประชากร


39.ด้วยแผนจำนวนประชากรของรัฐบาลและวิธีการอื่นๆองค์กรที่มีอิทธิพลในการชักชวนที่มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในองค์กรระหว่างชาติและติดต่อกับองค์กรเอกชนกึ่งรัฐบาล หรือ

องค์กรต่างๆ ในประเทศแถบเอเซียพยายามแผ่อิทธิพลต่อรัฐบาลต่างๆ และความคิดเห็นของสาธารณะชนให้ยอมรับความคิดทางโลกและความคิดด้านเสรีนิยมเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ครอบครัว เด็กๆ และการแต่งงาน ดังนั้นในช่วงเวลาแห่งการปฏิสนธิของชีวิตมนุษย์ การจบชีวิตมนุษย์ที่ยังไม่เกิดธรรชาติของการแต่งงานของชายและหญิงที่เป็นสัญญาที่ผูกมัดกันตลอดชีวิต ความหมายของสุขภาพของผู้หญิง ความเข้าใจในเรื่อง "สิทธิมนุษยชน" ที่อยู่เหนือกว่าร่างกายมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิในการเลือกของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะต้องแก้ไขให้กลับคืนมา ความคิดทางปรัชญาเหล่านี้ในปัจจุบันประเทศในเอเซียทั้งหมดได้รับทราบโดยผ่านทางขบวนการปลดปล่อยต่างๆ ในตะวันตกคู่กับระดับท้องถิ่น โดยผ่านทางสื่อสารมวลชนและทางกฎหมายที่ตรงกันข้ามกับข้อความเชื่อพื้นฐานของพระศาสนจักร



12.ครอบครัวและเอชไอวี / เอดส์


40.ภาพของ เอชไอวี / เอดส์ในเอเซีย เป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่รัฐบาลใช้อ้างในแผนควบคุมจำนวนประชากรเพื่อตอกย้ำความคิดในเรื่อง "การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอภัย" และใช้การคุมกำเนิดที่ผิดธรรมชาติ ดังนั้นการรณรงค์ในการควบคุมจำนวนประชากร ก็ได้มียุทธวิธีที่จะเปลี่ยนข้อมูลในเรื่อการ มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไปเป็นเรื่องสุขภาพและการเมือง ด้วยการใช้คำที่กำกวมว่า "สิทธิที่จะมีสุขภาพดีในการสืบพันธุ์" ด้วยวิธีนี้ มิติด้านศีลธรรมของปัญหาก็ได้ถูกละเลยไปอย่าง ง่ายดาย


41.อันที่จริงเราจำเป็นต้องตระหนักว่า เอชไอวีหรือเอดส์เป็นโรคที่ทำร้ายหลายประเทศในเอเซียอย่างหนัก เอดส์ยังคงเป็นเครื่องหมายบอกลางไม่ดีที่กำลังเพิ่มความหายนะของจำนวนมนุษย์ในเอเซีย ดังนั้นพระศาสนจักรในเอเซียต้องเผชิญหน้ากับโรคนี้ด้วยการอภิบาลหลายแนวทาง ด้วยการใช้ยารักษา ด้วยความเมตตาเอาใจใส่ทั้งครอบครัวและเหยื่อของโรคเอดส์ ในทางการเมืองด้วยการให้หลักธรรมที่มีอิทธิพลต่อผู้ตรากฎหมายระดับชาติและให้หลักศีลธรรมในการสอนและการสนับสนุนอย่างไม่หยุดยั้งต่อข้อคำสอนของพระศาสนจักร ด้านศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสังคมที่เกี่ยวกับ เอชไอวี หรือเอดส์ แนวทางแต่ละอย่างนี้ครอบครัวเอเซียมีบทบาทหลักที่จะช่วยโดยที่พระศาสนจักรทั้งหมดจะต้องรับรู้ ส่งเสริมและสนับสนุน แต่นอกเหนือจากการเผชิญหน้ากับปัญหาของ เอชไอวี หรือเอดส์แล้ว ครอบครัวยังจะต้องยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาอื่นด้านสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องในด้านศีลธรรม การแพทย์ และการอภิบาล ดังนั้นพระศาสนจักรจึงถูกท้าทาย ตัวอย่างเช่น ในการให้บริการด้านสุขภาพี่เน้นภาพรวมให้มีจำนวนเพียงพอกับผู้ที่มีปัญหาติดสิ่งเสพติด



13.ครอบครัวท่ามกลางความขัดแย้ง


42.ในส่วนต่างๆ ของเอเซีย ครอบครัวจำนวนนับแสนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการทหารที่มาจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ครอบครัวนับพันต้องย้ายบ้านเป็นพักๆ หรือต้องทนอยู่กับการต่อสู้ที่มีอยู่ประปรายของบรรดาทหารบิดามารดาจำนวนมากเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ตึงเครียด วิตกกังวล ไม่ปลอดภัย รู้สึกไม่มีความมั่นคงกับอนาคตของครอบครัว เด็กๆ ขาดการศึกษาเป็นเวลานานและตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ผู้อพยพตามค่ายต่างๆ อยู่ในสถานการณ์ที่มี ความทุกข์แสนสาหัสในการย้ายถิ่นที่อยู่ ทั้งยังต้องรักษาตัวจากโรคร้ายต่างๆ ในระดับลึกกว่านี้ ครอบครัวที่ไม่มีหลักแหล่งต้องแบกรับความขมขื่นไว้ ทั้งในด้านอคติความลำเอียงทัศนคติ และคุณค่าที่เป็นหัวใจของด้านการเมือง เศรษฐกิจ ลัทธิ ความคิดต่างๆ ชนกลุ่มน้อยและความขัดแย้งด้านศาสนา ในเอเซีย ลัทธิคอมมิวนิสต์และลัทธิอนุรักษ์นิยมเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเหล่านี้ เด็กที่เกิดระหว่างสงคราม เติบโตขึ้นพร้อมกับความจริงที่เป็นไปได้ว่าเขาเป็นผู้รับภาระสงคราม ในอนาคตเขาแบกรากเหง้าของความขัดแย้งที่บิดามารดารับเข้าไปในความคิดและในหัวใจไปในอนาคตด้วย แต่ก็ยังรู้สึก มีกำลังใจที่ว่าในบางประเทศที่มีความขัดแย้งครอบงำอยู่ แม่ซึ่งเป็นผู้ที่เปราะบางที่สุดที่ต้องทนรับภาระ ความยากลำบากและความขัดแย้งนานับประการ ได้รวมตัวกันเป็นผู้ส่งเสริมสันติภาพ เป็นผู้ที่ให้การเลี้ยงดูและเอาใจใส่ที่เข้มแข็ง อ่อนไหวต่อความต้องการลึกๆ เป็นนักประนีประนอมตัวยง เป็นผู้หญิง อันที่จริงเป็นแม่ ที่ได้แสดงบทบาทพิเศษในการสร้างสันติ มิใช่สงคราม



14.ชีวพันธุกรรมที่คุกคามชีวิต


43.ในทุกวันนี้ ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อด้านวิทยาศาสตร์ได้ขยายขอบเขตความรู้ของเราด้านชีวิต มนุษย์ และยังคงให้ความรู้อันมีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ต่อไปอีก โครงการด้านโครโมโซมของมนุษย์มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ เพราะโรคภัยไข้เจ็บหลายประการที่ยังรักษาไม่ได้ในปัจจุบันก็จะรักษาได้ในอนาคตมองด้านความเชื่อ ความก้าวหน้าเหล่านี้ทวีความยำเกรงพระเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในฤทธิ์อำนาจการสร้างสรรค์อันไม่สิ้นสุดของพระองค์ อีกด้านหนึ่งของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอัน ยิ่งใหญ่นี้ ทำให้เกิดปัญหาทางจริยศาสตร์ด้านชีววิทยาที่เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และศักดิ์ศรีของชีวิตตั้งแต่การเริ่มต้นและเกี่ยวกับการจัดการของมนุษย์คือชีวิตที่พระเจ้าได้ประทาน

44.เมื่อมีการประกาศเป็นครั้งแรกว่า ผลผลิตของเซลล์ ต้นกำเนิดตัวอ่อน โดยผ่านทางตัวอ่อนของมนุษย์ด้วยวิธีการสร้างใหม่โดยไม่ใช้ขบวนการทางเพศ สามารถช่วยรักษาหรือทดแทนส่วนของร่างกายที่เป็นโรคได้ ทำให้เป็นที่ยอมรับทันทีเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนที่ได้มาจากตัวอ่อนของมนุษย์ไม่ว่าเพื่อจุดหมายในการรักษา หรือเพื่อจุดประสงค์ในการผลิตขึ้นใหม่จากการเพาะขึ้น ตัวอ่อนของมนุษย์จำนวนนับพันถูกทำลายเพื่อที่จะผลิตเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อน ตั้งแต่นั้นเป็นต้น

มานักวิจัย บางคนในประเทศเกาหลีได้รายงานว่า ประสบความสำเร็จในการผลิตเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อน ในปี .. 2003 สภาพระสังฆราชคาทอลิกของประเทศญี่ปุ่นได้ส่งข้อคิดเห็นไปยังคณะรัฐบาลเรื่องจริยธรรมด้านชีววิทยาและต่อต้านการผลิตตัวอ่อนมนุษย์เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยและการสร้างมนุษย์โดย ไม่ใช้ขบวนการทางเพศ การอภิปรายเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างเผ็ดร้อนระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักเทววิทยาด้านศีลธรรม นักจริยศาสตร์และผู้นำทางศาสนา พัฒนาการเหล่า

นี้มิใช่เป็นเรื่องแปลกสำหรับเอเซีย เพราะว่าการทดลองเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในบางประเทศของเอเซีย เรื่องที่ยุ่งยากยิ่งกว่านั้นก็คือความคิดที่ตรงกันข้ามกับคำสอนของพระศาสนจักร ความคิดเหล่านี้กำลังใช้อ้างเพื่อเป็นเหตุผลสนับสนุนการผลิตและการทำลายตัวอ่อนของมนุษย์ ดังเช่นความคิดที่ว่าตัวอ่อนของมนุษย์เป็นมนุษย์แต่มิใช่เป็นตัวบุคคลภาพของเรื่องการถ่ายพันธุ์กลับกลายเป็นเรื่องการบำรุงพันธ์ของมนุษย์ด้วยการคัดเลือกสายพันธ์และการผลิตมนุษย์พิเศษทางวิทยาศาสตร์หรือผลิตทารกตามแบบที่ต้องการ และมีเผ่าพันธุ์พิเศษ เป็นปรากฏการณ์ที่อยู่เหนือมนุษยชาติที่กำลังพยายามเล่นบทบาทเป็นพระเจ้า


45.เห็นได้ชัดว่าการสร้างตัวอ่อนมนุษย์โดยไม่ใช้ขบวน-การทางเพศและการผลิตเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนด้วยวิธีการทำลายตัวอ่อนมนุษย์เป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของมนุษย์และความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์อย่างหนัก แม้ว่าในความตั้งใจ จะทำเพื่อการรักษาหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการผลิตขึ้นทดแทนนั้นอาจจะดี แต่ผลิตผลจากการยักย้ายถ่ายเทและการทำลาย ตัวอ่อนมนุษย์ เพื่อจะให้ได้เซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนที่เหมาะสมที่สุดนั้น ในด้านศีลธรรมยอมรับไม่ได้

สันตะสำนักสนับสนุนงานวิจัยในเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดหลังการบังเกิดแล้วเพราะจากการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ แสดงให้เห็นว่าแนวทางนี้ถูกต้อง เป็นความหวัง และถูกต้องตามหลัก

จริยธรรมที่จะทำการย้ายเนื้อเยื่อและการรักษาเซลล์ที่จะให้ประโยชน์แก่มนุษยชาติ ตามจุดยืนของ Pro - active พระศาสนจักรต้องเฝ้าระวังเกี่ยวกับการพัฒนาเหล่านี้ที่กำลังจะเข้ามาสู่ทวีปเอเซีย



15.ครอบครัว

และพระศาสนจักรพื้นฐาน / ชุมชนมนุษย์


46.พัฒนาการด้านบวกที่แท้จริงในเอเซีย คือมีการตระหนักมากขึ้นถึงบทบาทและสถานที่ของครอบครัวในการสร้างพระศาสนจักรพื้นฐาน/ชุมชนมนุษย์ไปยังพระศาสนจักรในรูปแบบใหม่ ครอบครัวเป็นหน่วยพื้นฐานของสังคมและเป็นชุมชนพื้นฐานของพระศาสนจักร พระศาสนจักรที่เป็นบ้านแท้ ทุกวันนี้ในเอเซียมีการตระหนักมากขึ้นว่าครอบครัวต้องเป็นจุดรวมของการประกาศพระวรสาร และเป็นโครงสร้างที่สำคัญของชุมชนพระศาสนจักรขั้นพื้นฐานและของพระศาสนจักรท้องถิ่นทั้งหมด พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพระศาสนจักรเริ่มต้นที่บ้านมิใช่ในเขตวัด โดยแนวทางนี้จะต้องคิดวางแผนอภิบาลกันใหม่ มีหลายวิธีการที่ได้ทำกันไปแล้วในการสร้างชุมชน

กลุ่มย่อยที่รวมตัวกันเป็นวัด ครอบครัวและการรวมกลุ่มของครอบครัวได้รับการเอาใจใส่อย่างมาก ดังนั้น ทุกโครงการอภิบาลของวัด ต้องมุ่งไปสู่การเสริมสร้างชีวิตครอบครัว



16.สรุป


47.เราได้พิจารณาพลังต่างๆ ในสถานการณ์การอภิบาล อาจจะเป็นพลังที่ให้ความตายหรือพลังที่ให้ชีวิตการเกิดขึ้นของกระแสทางโลกวัฒนธรรมหลังสมัยใหม่ก็ยังคงกำกวมมันประกอบด้วยทั้งลักษณะด้านบวกที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาวัฒนธรรมแห่งชีวิตด้านบวก ทั้งด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง องค์ประกอบต่างๆทางศาสนา รวมทั้งโครงสร้างที่มีอิทธิพลต่อครอบครัวเอเซียไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือเลว อย่างไรก็ตามพลังอื่นๆเช่นความยากจนส่วนใหญ่

ของเอเซีย การแบ่งแยก ความขัดแย้ง การหาประโยชน์ส่วนตัว และโครงสร้างที่ กดขี่ที่ถูกใช้โดยขบวนการทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมโลกาภิวัตน์และเป็นปฏิบัติการแห่งความตาย สิ่ง

เหล่านี้มิได้คุกคามเพียงคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังทำลายการอยู่รอดของครอบครัวเอเซียจำนวนมาก แม้กระทั่งชีวิตเองยังถูกคุกคามโดยการพัฒนาการของการตัดต่อพันธุกรรม แน่นอนที่สุดที่ ลัทธิการแบ่งชนชั้น การปกครองแบบพ่อกับลูกและความไม่เท่าเทียมกันด้านเพศ ความยากจน แรงงานเด็ก ปัญหาที่ดิน นิเวศวิทยาถูกทำลายและความขัดแย้งทางสังคมเป็นพลังส่วนใหญ่อันนำไปสู่ความตายการคุกคามเหล่านี้ทำให้คุณค่าด้านบวกลดลงคุณค่าที่มีลักษณะตามขนบธรรมเนียมประเพณีของครอบครัวเอเซีย เช่น การที่ญาติพี่น้องมีความใกล้ชิดกันรวมทั้งในครอบครัวขยาย มีความรักต่อเด็กๆ มีความเคารพและเอาใจใส่ดูแลต่อผู้อาวุโส มีความกลมกลืน มีศีลธรรมและความศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง มีความเคารพต่อชีวิตและเอาใจใส่ต่อชีวิตในครรภ์เป็นอย่างมาก ให้ความเคารพนับถือต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง สิ่งเหล่านี้คุกคามความ

เข้าใจในด้านศาสนาของเราทั้งในเรื่องต้นกำเนิดและธรรมชาติของชีวิตรวมทั้งธรรมชาติและโครงสร้างของครอบครัวและการแต่งงาน ทำสิ่งที่ตรงข้ามกับความรับผิดชอบในการพิทักษ์ชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งศีลศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงานระหว่างชายและหญิง และวัตถุประสงค์ที่พระเจ้าประทานให้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสถานการณ์ การอภิบาลในเอเซีย ไม่ว่าจะเป็นด้านลบหรือด้านบวก มีผลกระทบต่อชีวิตอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านเอกภาพและความกลมเกลียวความเป็นหนึ่งเดียวและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของครอบครัวเอเซีย คุณค่าของอาณาจักรพระเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลักษณะของสิ่งสร้างทั้งหมด หลั่งไหลมาจากความรักและชีวิตของพระเจ้า และจาก

พันธสัญญาที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อมนุษยชาติ คุณค่าตามพระคัมภีร์เหล่านี้จะเป็นหัวข้อการไตร่ตรองทางเทววิทยาด้านการอภิบาลของเรา



48.สถานการณ์ในงานอภิบาลเป็นงานท้าทายอันยิ่งใหญ่ต่อการทำงานด้านครอบครัวของพระศาสนจักรในเอเซีย เกือบ 20 ปีมาแล้วพระสังฆราชของเอเซียกล่าวว่า "การท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระศาสนจักรในเอเซียน่าจะเป็นเรื่องครอบครัวเอเซีย ครอบครัวเอเซียเป็นหน่วยที่รองรับปัญหาของเอเซีย ทั้งหมด ทั้งด้านความยากจนการถูกกดขี่ การหาประโยชน์ ส่วนตัว และการทำให้เลวลงการแบ่งแยกและการขัดแย้งกันครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งจากศาสนา การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและปัญหาวัฒนธรรมของเอเซีย โดยที่ปัญหาเหล่านี้ยังเกี่ยวโยงไปถึงผู้หญิง สุขภาพ การงาน ธุรกิจ การศึกษา ฯลฯ


49.ดังนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นคำถามด้านการอภิบาลที่อยู่ต่อหน้าเราที่เราปรารถนาจะกล่าวว่าพระศาสนจักรในเอเซีย โดยเฉพาะพระศาสนจักรท้องถิ่นจะสามารถตอบสนองอย่างเพียง-พอต่องานอภิบาลที่ท้าทาย ดังที่กล่าวมาแล้วได้หรือไม่ มีทางใดบ้างที่พระศาสนจักรสามารถสะท้อนให้เห็นในด้านงานอภิบาลและเทววิทยาอย่างตรงประเด็นกับปฏิบัติการแห่งความ-

ตายและพลังที่ให้ชีวิตในเอเซียที่มีผลต่อชีวิต เอกภาพความเป็นหนึ่งเดียว และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของครอบครัวเอเซีย พระศาสนจักรจะจัดแผนงานอภิบาลที่ตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพสำหรับครอบครัวเอเซียได้อย่างไร ?