Deep Thoughts|10

เวลาน้อยลง?


วันหนึ่งก็จบสิ้นลงแล้ว ด้วยความรวดเร็ว

มีอะไรมากมายที่ต้องทำ แต่ยังทำไม่ได้หมด

แต่ละวันดูจะสั้นลงไปเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่อยากทำมีมากขึ้นทุกวัน

ยี่สิบสี่ชั่วโมงดูจะน้อยไป หากมีมากกว่านั้นในแต่ละวันก็คงจะดี

แล้วก็อดถามไม่ได้ว่า เวลาน้อยลงหรือมีอะไรทำมากขึ้น?

คำตอบก็คงหาได้ไม่ยาก...

สิ่งที่เป็นหน้าที่ประจำ ที่สอดแทรกเข้ามาตามสถานการณ์ ที่เสนอตัวเข้ามา...เหล่านี้แหละตัวปริมาณของงานที่ทะลักเข้ามา จนอยากจะมีสักสิบมือ

ในเมื่อเวลาดูจะน้อย และสิ่งที่ต้องทำมีมาก ก็คงต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...ในแต่ละวัน

วันไหนทำได้มาก ก็รู้สึกว่าวันนั้นคุ้มค่า

วันไหนทำได้น้อย ก็อดหดหู้ใจไม่ได้

ก็เลยเกิดความกดดัน

หนักเข้าก็กลายเป็นความเครียดลึก

แล้วก็พาลรู้สึกไม่พอใจตัวเองเอาดื้อๆ

ที่สุดก็ต้องสรุปเอาง่ายๆ ว่า แม้จะมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง

แต่บางอย่างสำคัญมากกว่าอย่างอื่นๆ

บางอย่างก็เป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ทำไม่ได้

อีกหลายๆ อย่างก็เป็นสิ่งที่ทำได้ก็ดีไม่ทำก็ไม่เป็นไร

จะพูดให้ง่ายขึ้น แต่ละวันมีสิ่งที่ “ต้อง” ทำ และมีสิ่งที่ “น่า” ทำ

และสิ่งที่น่าทำดูจะมากมายก่ายกอง

เพราะเหตุนี้เอง แต่ละวันจึงดูสั้นเกินไป สำหรับทำสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่น่าทำ

แถมสิ่งที่ “น่า” ทำ ดูจะน่าสนใจมากกว่าสิ่งที่ “ต้อง” ทำเสียอีก

จนบ่อยครั้ง มัวแต่เพลินกับสิ่งที่ “น่า” ทำ จนแทบไม่ได้ทำสิ่งที่ “ต้อง” ทำ

หรือใช้เวลามากกับสิ่งที่น่าทำ จนสิ่งที่ต้องทำพลอยทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ที่ร้ายไปกว่านั้น เอาแต่ทำสิ่งที่น่าทำ แล้วก็ทิ้งสิ่งที่ต้องทำไปอย่างไร้ซึ่งความรับผิดชอบ

จริงๆ แล้ว ยี่สิบสี่ชั่วโมงในแต่ละวันเหลือจะเพียงพอสำหรับสิ่งที่ต้องทำ

มีเพียงพอแม้สำหรับบางสิ่งที่ “น่า” ทำด้วย

มันจึงเป็นเรื่องของการเลือกลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง

ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะเป็นการทำทุกอย่างที่ขวางหน้า...เห็นอะไรเป็นต้องทำหมด

ต่อเมื่อมีการเลือกที่ถูกต้อง ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี...แม้จะทำได้ไม่หมดทุกอย่าง

มีเวลาสำหรับพระ เพื่อสรรเสริญเทิดเกียรติพระองค์

มีเวลาสำหรับพ่อแม่ เพื่อจะพูดคุยดูแลอยู่เป็นเพื่อน

มีเวลาสำหรับลูก เพื่ออยู่ใกล้ชิดให้ความอบอุ่นและรับฟังปะญหาเล็กใหญ่

มีเวลาสำหรับคู่ชีวิต เพื่อแบ่งเบาภาระและมอบความรักให้กันและกัน

มีเวลาสำหรับพี่น้อง เพื่อเล่นหัวกระเซ้าเย้าแหย่ประสาพี่ประสาน้อง

มีเวลาสำหรับเพื่อน เพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขและแบ่งปันประสบการณ์

มีเวลาสำหรับตนเอง เพื่อทักทายถามทุกข์ถามสุขในส่วนลึกของความเป็นตนเอง

มีเวลาแม้สำหรับธรรมชาติ เพื่อสร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติ และคืนความธรรมชาติให้แก่ตนเอง

การบริหารเวลาจึงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรเวลาให้สิ่งต่างๆ เท่านั้น

แต่เป็นเรื่องการแยกแยะระหว่างสิ่งที่ “ต้องทำ” กับสิ่งที่ “น่าทำ” ด้วย.