Deep Thoughts|2

หลักยึดเหนี่ยว


การประกาศให้ค่าของเงินบาทลอยตัว

ทำให้ต้องวิตกถึงผลที่ตามมาในทุกระดับ

ข้าวของ สิ่งใช้สอยคงต้องลอยตามค่าเงินบาท

ก็ในเมื่อสิ่งของต่าง ๆ มีราคาเป็นบาท มีหรือที่

เงินบาทลอยแล้วไม่ทำให้อื่นๆ ต้องพลอย “ลอย” ตามขึ้นไปด้วย?

หากแม้นทุกอย่างจะลอยตามไปก็คงพอทำเนา

นี่มีแค่ “ราคา” สินค้าลอย แต่เงินเดือนค่าจ้าง

ยังคงที่เหมือนเดิม...นั่นแหละความหายนะสำหรับหายคน

ก่อนนี้ แค่ร้อยบาท ก็เหลือกินเหลือใช้ มีให้เก็บ เกินครึ่ง

ซื้อข้าวซื้อของแล้วยังมีตังค์ทอนให้เก็บให้ใช้

จ่ายอย่างอื่น

แต่เดี๋ยวนี้ยังต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีกหลายสิบ เพื่อจะซื้อสิ่งของเดียวกัน

ก่อนนี้เด็ก ๆ ไปเที่ยว ขอตังค์พ่อแม่สิบ ยี่สิบยังให้รู้สึกเกรงใจ

แต่เดี๋ยวนี้ให้ต่ำกว่าร้อย จ้างก็ไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น

แล้วแนวโน้มคงจะมีต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ...ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลเปลี่ยน

เกือบทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลง

แต่ราคาสินค้ามีแต่ขึ้น ยังไม่เคยมีการประกาศลดราคาสินค้ากันเลย

แม้ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งประกาศ ทั้งขอร้อง ทั้งขู่...ราคาสินค้าก็ขึ้นอยู่นั่นแหละ

ก็ใครจะไปควบคุมตรวจตราห้างร้านแผงตลาดได้ทุกแห่ง...ได้ทุกวัน

ดีนะที่คนไทยลืมง่าย... โวยวายสักพัก แล้วก็ปล่อยเลยตามเลยด้วยความจำยอม

เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็เลยรอดตัวไปทุกครั้ง ทุกครา

คงฝากความหวังไว้ไม่ได้มาก ตามที่คุยรับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะไว้ในช่วงการเลือกตั้ง

ยิ่งตัวเงินบาทแล้วด้วย ยิ่งจะหวังอะไรไม่ได้นาน

วันนี้ดูมั่นคง พรุ่งนี้ก็ไม่แน่เสียแล้ว

วันนี้มีอยู่ในมือ พรุ่งนี้ก็อันตรธานหายไปหมดเกลี้ยง

ตั้งใจจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเงินก้อนนี้ แต่แล้วต้องมีอันเป็นไป

ฝากอะไรไม่ได้สักอย่าง

คงเพราะเหตุนี้เอง ในธนบัตรเหรียญสหรัฐ เคยมีการพิมพ์ข้อความเตือนใจไว้

“In God we trust”…เราไว้ใจในพระเจ้า

คล้ายจะบอกเตือนคนที่ถือธนบัตรนั้นว่า เงินมีไว้ใช้สอย แต่จะฝากความไว้ใจกับมัน ไม่ได้เด็ดขาด

หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง ใครที่เอาใจไปไว้กับเงินทอง จะต้องเสียใจตรอมใจ...กับมันครั้งแล้วครั้งเล่า

เงินทองจึงมีไว้เพื่อใช้จ่ายปลายมือ...รับมาจ่ายไปตามความจำเป็น

แต่อย่าเผลอปล่อยให้มันเข้าไปอยู่ในใจเป็นอันขาด

เงินทองตราบใดที่อยู่ที่ปลายมือเป็นแค่ “บ่าว” คอยรับใช้คน

แต่เมื่อใดที่เข้าไปอยู่ในใจแล้ว มันจะเปลี่ยนจาก “บ่าว” เป็น “นาย” เหนือคนทันทีทันใด

และทุกคนย่อมรู้แก่ใจดีว่า เมื่อเงินเป็น “นาย” แล้วมันโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดไหน

หลวงพ่อคูณจึงบอกว่า “กูปฏิบัติกับเงินอย่างไร้เมตตา มีเท่าไรใช้มันให้หมด...”

และเงินก็เข้ามาและผ่านท่านไปเป็นล้านๆ โดยที่ท่านไม่เคยแตะต้องมันด้วยซ้ำ

เงินบาทลอยตัวครั้งนี้ นอกจากจะต้องคิดหนักหลายเรื่องแล้ว

คงต้องมาคิดด้วยกันว่า

จริงๆ แล้ว ชีวิตคนเรามีที่ยึดเหนี่ยวที่หนักแน่นมั่นคงมากกว่าข้าวของเงินทอง

อุตส่าห์ทุ่มเทชีวิตเลือดเนื้อ แรงกายแรงใจให้กับมันอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ยังพึ่งพามันไม่ได้ตลอดไป

คงต้องเจียดการทุ่มเทมาให้กับคุณค่าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราให้มากขึ้นเสียแล้ว

เพราะหากมัวแต่ทุ่มเทให้สิ่งไม่เที่ยงแท้ จนลืมคุณค่าที่เที่ยงแท้ถาวรไป.