Deep Thoughts|36

สุขแท้สุขเทียม


เมื่อนึกถึงคำอวยพรที่มอบให้แก่ผู้อื่น

คนมักจะนิยมอวยพรให้มีลาภยศ ร่ำรวย มั่งมี

ศรีสุข ไร้ทุกข์เยี่ยมกราย ฯลฯ

แต่สำหรับผมเพียงขอพรพระเจ้าให้ท่านผู้อ่านมีความสุข...อย่างเดียวก็เกินพอแล้ว

เงินทอง ลาภยศ สุขภาพดี...ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้เสมอไป

แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุข และสามารถมีได้...ในทุกสภาพ ในทุกกรณี

เสียดายที่คำว่า “ความสุข” ถูกนำไปใช้พร่ำเพรื่อ จนแทบจะสูญเสียความหมายแท้จริงไป

ก็เลยทำให้มองดูว่า ความสุขเป็นสิ่งที่ต้องดิ้นรนหา และเฉพาะคนที่ทำได้สำเร็จจึงมีความสุข

ดีไม่ดี ความสุขก็ออกมาอยู่ในสิ่งนอกใจ...ร่างกาย สิ่งของ สถานที่ ฯลฯ

ทั้งๆ ที่ความสุขต้องเกิดจากภายในใจ แล้วแผ่ซ่านออกมาทางกาย ทางสิ่งภายนอก ทางสถานที่อยู่อาศัย...

เฉกเช่นความร้อน ที่เกิดจากกองไฟแล้วแผ่ความร้อนออกไป ทำให้สิ่งใกล้เคียงอบอุ่นและร้อนแรงไปด้วย

แล้วนั้นสิ่งใดที่เข้ามาในกองไฟ ก็จะได้รับความร้อนและกลับกลายเป็นไฟให้ความร้อนต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด

แต่หากไร้ซึ่งไฟแล้ว แม้จะเอาไม้ เอากระดาษ เอาผ้า...มาสุมกันกองโต ก็หาเกิดไฟเกิดความร้อนไม่

ในเมื่อตีความหมายของความสุขผิดไป กระบวนการที่จะได้มาซึ่งความสุขจึงกลับตาลปัตร

หันมาใช้ร่างกาย เงินทองข้าวของ บ้านช่องที่อยู่ เครื่องใช้เครื่องประดับ ลาภยศ...มาเป็นตัวสร้างความสุข

เปลี่ยน “ความรู้สึกพึงพอใจ” ด้านประสาทสัมผัสในส่วนต่างๆของร่างกายเป็น “ความสุข”

เปลี่ยนการ “มี” สิ่งของเป็น “ความสุข”

เปลี่ยนการ “จับจ่าย” เงินทองเป็น “ความสุข”

เปลี่ยน “ความอร่อย” ในรสชาติอาหารเป็น “ความสุข”

เปลี่ยน “การครอบครอง” บ้านช่อง ที่ดิน เรือกสวนไร่นาเป็น “ความสุข”

เปลี่ยน “ความงาม” ในการสวมใส่เสื้อผ้าเป็น “ความสุข”


เปลี่ยน “ความเพลิดเพลิน” ในการเที่ยวเป็น “ความสุข”

เปลี่ยน “ความสนุก” ในการละเล่นเป็น “ความสุข”

และแม้แต่สิ่งที่ในตัวมันเองตรงกันข้ามกับความสุข ก็ถูกมองเป็นความสุขไปด้วย

เรียก “ความมึนเมา” เป็น “ความสุข”

เรียก “การผลาญเวลา” ให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์เป็น “ความสุข”

เรียก “การเที่ยวเตร่หัวราน้ำจนไม่ได้หลับได้นอน” เป็น “ความสุข”

เรียก “การสูบควันเข้าไปเผาปอด” เป็น “ความสุข”

เรียก “ผีพนัน” ต่างๆ เป็น “ความสุข”

เรียก “การผิดผัวผิดเมีย” เป็น “ความสุข”

เรียก “การโกงกิน” เป็น “ความสุข”...

แล้วก็เที่ยวไปเสาะหา กอบโกย ดิ้นรน...ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

โดยเข้าใจว่านั่นคือการได้มาซึ่งความสุข

จนหลายครั้ง ยอมแลกแม้กระทั่งกับความสุขใจอันแท้จริงไป...อย่างน่าเสียดาย

จึงไม่แปลกใจที่ได้มาแล้ว ยังต้องดิ้นรนให้ได้มามากขึ้นอย่างไม่มีวันเพียงพอ

ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพราะมีแต่เอาสิ่งของมาสุม แต่ไม่มี “ไฟ” ที่ทำให้เกิดการเผาผลาญกลายเป็นความร้อนนั่นเอง

ใจไม่เป็นสุข แม้จะมีทุกสิ่งทุกอย่าง ก็หาความสุขไม่ได้อยู่ดี

แต่หากใจเป็นสุขแล้ว อะไรๆ ก็ดูจะเอื้อให้สุขได้หมด แม้แต่สิ่งเล็กน้อย

เพราะเหตุนี้เอง ผมจึงขอพรให้ท่านผู้อ่านมีสุขตลอดปีใหม่

โดยเข้าถึงความหมายแท้จริงของ “ความสุข” กันเสียที.