Deep Thoughts|27

มัจจุราช (ที่รัก?) 1


ตั้งแต่มีรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ปัญหายาเสพติดดูจะได้รับการพูดถึงกันมาก

แถมมีผลงานจับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายให้เห็นแทบทุกวัน

แต่ก็แปลกแม้จะมีการเพิ่มโทษและระดมการกวาดล้าง ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายดูจะไม่หวาดหวั่น

ก็เพราะผลตอบแทนนั้นมันคุ้มค่าต่อการเสี่ยงหลายสิบหลายร้อยเท่า

เงินมหาศาลที่ได้มาเป็นกอบเป็นกำ มีมากเกินพอไว้ประกันตัวหากเพี่ยงพล้ำถูกจับ

แถมยังมีเหลือเฟือไว้ซื้อตัวปิดปากเจ้าหน้าที่ปราบปรามได้อย่างฉมัง

ที่สุดแล้ว การปราบปรามยาเสพติดก็ทำไปทำนองปราบหญ้าแห้วหมู

เด็ดใบหญ้าทิ้ง แต่ไม่เคยไปแตะต้องรากเหง้าชนิดถอนรากถอนโคน

ไม่แปลกใจที่หญ้าแห้วหมูยังขึ้นรกเต็มสวน

ระบาดไปทั่วหัวระแหง ติดกันงอมแงมตั้งแต่คนใหญ่ไล่ลงมาวัยรุ่นวัยเด็ก

มีจำหน่ายทุกแห่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งในสถานการศึกษา

ก็พ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติหันมารวยลัดกับการบ่อนทำลายอนาคตของชาติเสียเอง เด็กที่ไหนจะพ้นเงื้อมือมัจจุราชในรูปแบบยาเม็ดเล็ก ดูไร้พิษสง เหล่านี้ได้?

ที่มีเงินน้อยร้อยกว่าบาท ก็ต้องพอใจกับแค่ยาบ้าราคาซื้อหาพอดีกัน

ที่มาจากครอบครัวมีอันจะกินหน่อย ก็เที่ยวซื้อหายา Ecstacy เม็ดละ 800-1,000 บาท

เพียงเพื่อแลกเปลี่ยนกับ “การหลุดพ้น” ชั่วระยะหนึ่ง

หลุดพ้นจากตนเอง หลุดพ้นจากปัญหา หลุดพ้นจากความจำเจซ้ำซาก หลุดพ้นจากสถานภาพ หลุดพ้นจากกรอบสังคม หลุดพ้นจากความกังวลถึงอนาคต หลุดพ้นจากกาลเวลา...

สรรพคุณนั้นทันตาเห็น เปลี่ยนได้แม้กระทั่งบุคลิก

จากขี้ขลาดขี้อาย กลายเป็นกล้าจนบ้าบิ่น จากพูดน้อย เป็นคนต่อยหอยไม่รู้จบ

สิ่งที่เคยควบคุมตนเองไว้ หายสิ้นไปในพริบตา เหลือแต่สนุกสนานกับการเต้นได้ทุกจังหวะทุกบทเพลง

เพลินแม้กระทั่งกับการนั่งมองแสงไฟและวัตถุสะท้อนแสง...

จนกว่ามันจะหมดฤทธิ์นั่นแหละ อาการหวนกลับจึงเริ่มส่งผล

หมดเรี่ยวแรง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ไร้ซึ่งชีวิตชีวา อารมณ์หวั่นไหว... จนอดรนทนไม่ได้ ต้องหาทาง “หลุดพ้น” อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้งหนึ่ง

นั่นคือยาเสพติด มัจจุราชที่คอยฉุดกระชากลากออกจากโลกแห่งความเป็นจริง ไปสู่โลกแห่งความเลื่อนลอย ไร้ตัวตน



ทุกครั้งที่คร่าเหยื่อได้แล้ว ทันจะกัดไม่ปล่อย ฝังเขี้ยวเล็บคมกริบสองอันลึกเข้าไปถึงไขกระดูก

เขี้ยวแรก เมื่อเสพแล้ว ก็จะ “ติด” จนไม่อาจจะเลิกได้

มันกลายเป็นวัฏจักรแห่งความต้องการที่นำไปสู่ความต้องการ อย่างไม่รู้จบ

เขี้ยวสอง เสพแล้วทำให้ “หลุด” ไปจากโลกแห่งควงามเป็นจริง

จากโลกแห่งความเจ็บปวดไปสู่โลกที่ไร้ความสำนึกใดๆ

จากโลกแห่งปัญญา ไปสู่โลกที่ลืมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กปัญหาใหญ่

จากโลกแห่งความทุกข์ ไปสู่โลกไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ จนให้รู้สึกเบาหวิว

จากความทรงจำ ไปสู่โลกที่ไม่มีอดีต ไม่มีแม้กระทั่งปัจจุบัน

จากกาลเวลาไปสู่ช่วงเวลาไร้วันไร้คืนไร้เดือนไร้ปี


ว่ากันแล้ว ยาเสพติดคงไม่ใช่แค่สองอย่างที่พากันหวาดหวั่นวิตกอยู่ในขณะนี้เท่านั้น

หากคือทุกสิ่ง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ที่ก่อให้เกิดสองอย่างนี้ขึ้นมา กล่าวคือ การติดและการหลุดพ้น พ้นไปจากความเป็นจริง พ้นไปจากการครองตน...

ถึงแม้จะไม่มีการตรากฎหมาย ขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดต้องโทษ แต่สมรรถนะการทำลายไม่แพ้กัน

ท่านผู้อ่านลองคิดดูสิครับ อะไรบ้างที่ทำให้ “ติด” และ “หลุดพ้น” ที่น่าจะจัดเข้าเป็นยาเสพติดประเภทหลังนี้บ้าง

ฉบับหน้าผมจะมาคุยให้ฟัง.