Deep Thoughts|23

ไม่เลวร้ายเกินไปหาก...


ขับรถไปตามถนนแต่ละครั้งมีอะไรใหม่ ๆ ให้เห็นเป็นประจำ ไม่นับป้ายจราจรที่บอกการเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถ ทำให้ต้องชะงักและผวาอยู่บ่อยๆ

ดูคล้ายจะจงใจทำให้การขับรถราไม่จำเจ ซ้ำซาก น่าเบื่อหน่าย

ตาจะจดจ้องแค่เส้นแบ่งถนนหรือรถคันหน้าคันหลังไม่เพียงพอเสียแล้วเพื่อจะขับรถอย่างปลอดภัยแต่ต้องส่ายหาป้ายเล็กป้ายน้อย อ่านและตีความให้แตก ด้วยความรวดเร็วอีกด้วย

การขับรถจึงเหนื่อยล้ามากกว่าที่ควรจะเป็นมิน่าเล่า ถึงมีรายงานอุบัติเหตุวันละเป็นร้อยแต่ที่แน่ๆ มีข้อความแปลกใหม่ท้ายรถให้อ่านอยู่เรื่อยๆวันนั้น รถคันหน้าค่อนข้างจะเก่า สีกะเทาะเป็นจุดๆ คล้ายเปลือกต้นไม้แก่

อายุการทำงานคงเกินคุ้มราคามานานแล้ว เฉกเช่นรถที่ใช้กันในบ้านเรา...ประมาณเศษเหล็กวิ่งได้เจ้าของคงมีความผูกพันกับมันจนไม่คิดจะทิ้งขว้าง ประสาคนรักรถ แบบลูกเมียจะเป็นไรก็ช่าง แต่อย่าให้รถลอกหรือบุบบี้

และคงจะไม่ใช่ความผูกพันอย่างเดียว แต่ท่าทีจะมีความภูมิใจกับมันจนเห็นได้ชัด แม้จะช้าและออกจะอุ้ยอ้าย แต่ก็วิ่งในช่องทางรถเร็วตลอดเส้นทาง ไม่สนใจใยดีรถหรูราคาเกินล้านที่แซงไปคันแล้วคันเล่าท้ายรถมีคำชี้แจง เขียนด้วยลายมือคนที่เชื่อมั่นว่าเรียนแค่ ป.4 . 5 ก็เกินพอแล้วสำหรับชีวิตนี้

โทษที เต่ามาเอง”

อ่านแล้ว ถ้าไม่นึกหมั่นไส้ ก็คงเกิดความเห็นใจ วิ่งตามไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็หาโอกาสแซงเสียให้พ้นๆ

ประโยคที่สองต่ำลงมาเล็กน้อย ตัวอักษรค่อนข้างใหญ่ เห็นได้ชัดเจนกว่าประโยคแรก

บินได้ คงบินไปนานแล้ว”

อ่านแล้วทำให้เปลี่ยนจากเห็นใจเป็นความเข้าใจ... ถึงแม้รถจะช้าเพราะสังขาร แต่ใจคนขับอยากจะไปให้เร็วกว่านี้ จะได้ไม่เกะกะขวางเส้นทางใครผมว่า ประโยคนี้สะท้อนชีวิตคนเราได้ดี

ทุกวัน คนเราสั่งสมความเครียด ความหงุดหงิดไว้มาก ดูอะไรก็ขวางหูขวางตา ไม่ได้ดังใจ

ทำไมเขาพูดไม่เคยเข้าหูเลย ต่อคำไม่เป็นประโยค แถมออกเสียงไม่ชัดอีกต่างหากทำไมเขาต้องมาสายเป็นประจำ บ้านก็อยู่แค่นี้ แล้วยังมีหน้ามาขอขึ้นเงินเดือนอีก

ทำไมคนข้างบ้านจึงมักง่าย มีอะไรก็ทิ้งขว้างออกมาให้สกปรกเลอะเทอะ ข้าวของวางระเกะระกะ แล้วยังชอบซื้อชอบหามาไม่เว้นวัน

ทำไมคนอยู่ชั้นบนต้องพูดคุยเฮฮากันดังจนดึกดื่น แถมเสียงเพลงก็ดังยังกับหูหนวกกันทั้งบ้าน ไม่รู้จักเกรงใจกันบ้างเลย

ทำไมวัยรุ่นเดี๋ยวนี้พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง บอกอย่างทำอย่าง บอกสองอย่างเถียงกลับสี่อย่าง แค่เรื่องพื้นๆ ทำไมไม่ยอมเข้าใจกันสักที

ทำไมคนเห็นแก่ตัวกันมากขนาดนี้ เอาแต่ได้ ไม่รู้จักให้ ไม่รู้จักเสียสละกันบ้างเลย

ทำไมนักการเมืองจึงเรื่องมาก ไม่รู้จักเอาเวลาไปพัฒนาบ้านเมืองเอาแต่ทะเลาะกล่าวหากันได้ทุกวัน

ทำไมต้องระกำลำบากทั้งปีทั้งชาติ ไม่เคยได้สบายกับเขาสักทีไหนจะเรื่องปากท้อง ไหนจะเรื่องหนี้สิน

ทำไมคนไม่ค่อยเข้าวัดถือศีลถือธรรม จนจิตใจตกต่ำ มัวเมาแต่วัตถุเงินทองสิ่งของ

แล้วก็เที่ยวโทษนั่นที โทษนี่ที จนหมดสิ้นความเพียร ปล่อยให้อารมณ์พาไปจนกู่ไม่กลับ

ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม

บินได้ บินไปนานแล้ว” ประโยคจากท้ายรถคันนั้นคงต้องเอามาเขียนเตือนความทรงจำ ในสถานการณ์เหล่านี้เสียแล้ว

ก็ใครบ้างอยากจะให้อะไรต่อมิอะไรเลวร้ายอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้?

ทำได้ ก็คงจะทำให้ทุกอย่างมันดีเลิศไปนานแล้ว

หากแต่ทำยังไม่ได้ ก็คงต้องเข้าใจกันบ้าง เห็นใจกันบ้าง ให้อภัยกันบ้าง อดทนกันบ้าง ยอมๆ กันบ้าง ชีวิตก็คงจะไม่เลวร้ายอย่างที่เห็นทุกวันนี้เป็นแน่.