Deep Thoughts|8

การสูญเสีย..ที่น่าห่วง


แล้วเรื่องก็บานปลาย ติดร่างแหกันแทบทุกระดับ ก็กินกันมูมมาม คำโตจนล้นปากออกมารู้ถึงไหนให้รู้สึกสะอิดสะเอียน ขยะแขยง จนน่ารังเกียจ..

อดไม่ได้ที่จะต้องพูดต้องถาม “ใจพวกนี้ทำด้วยอะไรกันนี่...” ถึงได้กล้าผลาญทำลายสมบัติของชาติบ้านเมือง... ไม่คิดถึงคนรุ่นหลังกันบ้าง

ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษท่านอุตส่าห์รักษาหวงแหนเผื่อรุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นเหลนได้มีได้ใช้กันอย่างเหลือเฟือ ใช้ไปก็หามาเพิ่มเติมไป เผื่อหน้าเผื่อหลังแล้วจู่ ๆ รุ่นลูกรุ่นเดียว..รุ่นเดียวแท้ ๆ... ผลาญกินผลาญใช้อย่างเห็นแก่ตัว... จนแทบจะไม่มีเหลือหลอให้รุ่นต่อไปได้มีได้ใช้บ้าง

กระนั้นก็เถอะ ถึงจะมีเหลือให้พอจะเจียดแบ่งกันใช้อย่างกระเบียดกระเสียรก็ยังพอทนแต่นี่นอกจากกินกันมูมมามแล้ว ยังเป็นต้นเหตุให้ความกลมกลืนของระบบนิเวศน์ก็เสียไปด้วยน้ำท่วมบ้านท่วมเมือง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ฤดูแปรเปลี่ยนจะเหลือก็เพียงแค่สองฤดูให้เห็น... ร้อนมากกับร้อนน้อย

ก็กินไม้กันจนแทบจะไม่เหลือป่าให้เห็นอย่างนี้ อะไรๆ ก็แปรผันเปลี่ยนแปลงไปหมด

แล้วก็ส่งทอดสันดานความเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้เห็นเป็นแบบอย่างยังไม่ทันจะเสียงแตกก็หัดกินหัดโกงกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วทุจริตการสอบ ลอกการบ้าน โกงกีฬา ค้ายาบ้า..ตามรอยเท้าผู้ใหญ่ระดับบ้านระดับเมืองที่ทำกันให้เห็นจะจะแล้วก็แคล้วคลาดรอดตัวไปทุกครั้งทุกครา

ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แถมไม่รู้สึกผิดในจิตใจแม้แต่น้อยนิด

ฉันตัดไม้ป่า ไม่ได้ขโมยตัดสวนบ้านใคร...”

ไม้เต็มป่าเต็มดง ตัดไปแค่นี้ ไม่เห็นจะเป็นไร...”

ก็มันเป็นป่า ใครมีปัญญาก็ตัดหามาใช้ ไม่เห็นมีใครเดือดร้อน...”

อีกบางคนก็คิดว่ากำลังช่วยสงเคราะห์สังคมเต็มที่

คนมีงานทำ มีเงินใช้ จ้างก็ไม่อดตาย...”

ลองคิดกันตื้นๆ แบบนี้ ชาติบ้านเมืองก็มีแต่พังกับพัง

และน่าเสียดาย คนที่คิดแบบนี้มีไม่น้อยแม้คนที่คิดแล้วทำได้จะมีไม่มากจนเกินไป แต่คนที่คิดแต่ทำไม่ได้มีมากมายนัก

และเมื่อคิดกันอยู่แบบนี้ ทันทีที่มีช่องทางมีโอกาส ก็มักจะฉกฉวยทำกันแบบไม่คิดตลบสอง

ก็โกงกินกันทั้งนั้นแหละ ฉันไม่กินคนอื่นก็กิน...อาจจะกินมากกว่าฉันด้วยซ้ำ...”

เหมือนจะบอกว่า การโกงกินเป็นเรื่องธรรมดา มีกันทุกแห่ง ทุกระดับว่าแล้วก็รุมทึ้งกันอย่างเมามัน

ศีลธรรมก็วัดกันแค่นี้...ในเมื่อใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น ฉันทำบ้างจะเป็นไรไป

ไม่ได้ฉุกคิดกันสักนิดว่า ในเมื่อมีการโกงการกิน ฉันไม่เอาด้วยอย่างน้อยความเสียหายก็น้อยลงหนึ่งส่วนแล้ว

ความผิดก็คงเป็นความผิดอยู่นั่นแหละ แม้จะทำกันหมดทุกคน

อยู่อย่างนี้มันต้องกินต้องโกงเหมือนคนอื่นๆ... ไม่เช่นนั้นก็อยู่ลำบาก” หรือจะพูดกันอีกนัยหนึ่งว่ากินตามน้ำ...

ถือว่าส่วนตัวแล้วไม่คิดจะทำ แต่ถูกบังคับให้ทำอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วก็โกงกินอย่างมีระบบ เป็นล่ำเป็นสัน... โยนความรู้สึกผิดพ้นตัวไป

บ้านเมืองเราจึงมีการทุจริตคดโกง...อย่างชอบธรรม ด้วยเหตุผลเข้าข้างตัวร้อยแปดพันเก้า

จนไม่มีความรู้สึกว่าผิด...หากไม่ถูกจับได้ เรื่องแดงขึ้นมา

เข้าทำนองเดียวกันกับคนที่ไม่กล้าทำผิด ไม่ใช่เพราะมันไม่ดีไม่ถูกต้อง แต่เพราะกลัวจะถูกจับได้ ต้องอับอายขายหน้า...

จริงๆ แล้ว แค่คิดชั่วถูกจับได้แล้ว...ตนเองนั้นแหละรู้ตนเองนั่นแหละจับได้

น่าจะละอายขายหน้าตนเองกว่าใครอื่นใด

แต่ในเรื่องนี้ คนแทบจะไม่ให้ความสนใจตนเอง กลับไปสนใจท่าทีคนอื่นมากกว่า

อย่างนี้ อย่าว่าแต่ป่าเลย สิ่งดี มีคุณค่าอื่นๆ ก็คงมีอันต้องสูญสิ้นไปอย่างแน่นอน.